ปรเด็นร้อน หลังจาก "ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 จังหวัดระยอง" ได้ออกหมายจับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อครั้งที่นายอิทธิพล ยังดำรงตำเเหน่งนายกเมืองพัทยา
ฐานเศรษฐกิจ รวบรวมข้อมูล ย้อนพาไปดูไทมไล์ของคดีนี้ ก่อนที่ศาลจะออกหมายจับนายอิทธิพล
ย้อนไปเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายอิทธิพล คุณปลื้ม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา และพวก
กรณีที่นายอิทธิพลพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ. 1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 ให้แก่ บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 5 ต่อ 1 เสียง เห็นว่า นายอิทธิพล มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีมูลสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง
การออกหมายจับดังกล่าว เนื่องจากพนักงานอัยการสำนักงานปราบปรามคดีทุจริตฯ ภาค2 ได้นัดตัวส่งฟ้องนายอิทธิพล เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้กำลังจะครบกำหนดอายุความในวันที่ 10 ก.ย. 2566
แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงวันที่ 4 กันยายน 66 นายอิทธิพลไม่ได้เดินทางมาตามนัด ป.ป.ช. ในฐานะผู้ร้องจึงยื่นขอศาลออกหมายจับ เพื่อนำตัวยื่นฟ้องศาล
โดยศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า จำเลยทราบหมายโดยชอบเเล้ว แต่ไม่เดินทางมา และมีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับในวันที่ 5 ก.ย.
เบื้องหลังจาก "หมายเรียก" กลายเป็น "หมายจับ"
สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 2 ส่งหนังสือแจ้งให้นายอิทธิพล ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ไปตามภูมิลำเนาหรือที่อยู่ที่ปรากฎในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย คือ ที่บ้านซึ่งอยู่ที่ตำบลหนองปรือ อำเกอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ปรากฏว่า ไปรษณีย์ไทยแจ้งว่า "นำจ่ายไม่สำเร็จ" และส่งหนังสือดังกล่าวไปยังที่อยู่ที่ปรากฏจากการไต่สวน คือ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่ง ไปรษณีย์ไทย แจ้งว่า "นำจ่ายสำเร็จ"
รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวไปยังภูมิลำเนาหรือที่อยู่ที่ปรากฏในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร และที่อยู่ที่ปรากฏจากการไต่สวนด้วย แต่ไม่พบตัวนายอิทธิพล คุณปลื้ม พบเพียงบุคคลในที่อยู่ดังกล่าว คือ นายวิทยา ผลลูกอินทร์ ซึ่งมีความสัมพันธ์ทำงานการเมืองร่วมกับกลุ่มการเมืองของนายอิทธิพล เป็นผู้ลงนามรับสำเนาหนังสือไว้เป็นหลักฐานแล้ว
กระทั่งวันที่ 4 ก.ย. 2566 นายอิทธิพล ไม่เดินทางมาพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ตามกำหนดนัดดังกล่าว
"จึงน่าเชื่อว่า นายอิทธิพล มีพฤติการณ์หลบหนี ประกอบกับเรื่องดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินกว่าสามปี อันเป็นเหตุที่จะออกหมายจับได้ตามประมาลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 จึงขอให้ศาลออกหมายจับเพื่อแจ้งให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ จัดการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับแล้วส่งอัยการสูงสุดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป"
ทำความรู้จัก โครงการวอเตอร์ฟรอนท์ พัทยา
โครงการวอเตอร์ฟรอนท์ พัทยา (Waterfront Pattaya) หรือ วอเตอร์ฟรอนท์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์ เป็นโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมและโรงแรมหรู 53 ชั้น พัฒนาโดย บริษัท บาลี ฮาย จำกัด ซึ่งอยู่ใน Tulip Group
แบ่งเป็นส่วนของคอนโดมิเนียม 53 ชั้น และโรงแรม 20 ชั้น จำนวน 315 ห้อง พื้นที่ใช้สอย 38,500 ตารางเมตร ตั้งอยู่บริเวณแหลมบาลีฮาย ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 2 ไร่ 1งาน 63 ตารางวา ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างตั้งแต่ปี 2551 ทั้งนี้เริ่มก่อสร้างในปี 2556
เมืองพัทยาได้เข้าไปตรวจสอบการดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง จนทราบว่า มีการก่อสร้างอาคารผิดรูปแบบจากที่ขออนุญาตไว้ต่อทางคณะกรรมการนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในเรื่องของบันไดหนีไฟ และช่องลิฟต์ในตัวอาคาร
จึงระงับการก่อสร้างไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.2557 เป็นเวลา 45 วัน เพื่อให้เอกชนทำการแก้ไขให้ถูกต้องตามที่ขออนุญาตไว้ และมีการตรวจสอบว่ามีการลักลอบต่อเติมอาคารฝ่าฝืนคำสั่งที่ให้ระงับการก่อสร้างโดยมีการยื่นแบบใหม่ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.2557
ในเวลาต่อมาโครงการนี้ได้รับการวิจารณ์อย่างกว้างขวางจากภาคประชาชนในพื้นที่และตามโลกโซเชียล ถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นกรณีที่ความสูงอาคารบดบังทัศนียภาพ
วันที่ 18 ส.ค.2557 นายอิทธิพล คุณปลื้ม ดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยาในขณะนั้น ได้ออกมาแถลงว่า อาคารนี้ขออนุญาตถูกต้องและผ่าน รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว
ในปี 2560 นายอภิชาต วีปรปาล รองนายกเมืองพัทยา ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของ คสช. ได้มีการออกคำสั่งให้ทำการรื้อถอนอาคารหรือ ค.15 ไปแล้ว และปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนของการเขียน TOR เพื่อกำหนดคุณสมบัติของผู้รับจ้างและงบประมาณ แต่ที่ยังไม่ได้ดำเนินการรื้อถอนเนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการหารือกลุ่มกฎหมาย รวมทั้ง สผ. และกรมโยธาธิการ