วันที่ 21 ก.ย. 2566 นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึง กรณีคดี น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ "ช่อ" อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาห้ามลงสมัคร ส.ส.หรือดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดไป แต่ไม่ตัดสิทธิ์ การใช้สิทธิ์เลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ยื่นอุทธรณ์คดีต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ว่า เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไป
โดยคดีที่กล่าวหาว่ากระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เมื่อมีการฟ้องคดีต่อศาลฎีกา และศาลฎีกามีคำวินิจฉัยใดแล้ว ผลนั้นถือเป็นอันสิ้นสุดตามกฎหมาย จะยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลฎีกาไม่ได้อีก
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2566 ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดี คมจ. 1/2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้ร้อง ยื่นขอให้วินิจฉัยกรณีกล่าวหา น.ส.พรรณิการ์ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม กรณีโพสต์ข้อความพาดพิงสถาบันฯ
ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า น.ส.พรรณิการ์ ผิดฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงตามกฎหมาย โดยให้ถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไปและไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมือง
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ น.ส.พรรณิการ์ กรณีโพสต์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊กที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันฯ เป็นพฤติการณ์หรือการกระทำที่ส่อไปในทางขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
จากนั้น ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูลเมื่อวันที่ 28 ก.พ.2565 ว่า น.ส.พรรณิการ์ ผิดจริยธรรมร้ายแรง ตามมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ที่บังคับใช้กับ สส.