24 กันยายน 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนเรื่องนี้ชัดว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น พรรคพร้อมให้การสนับสนุน แต่จะต้องไม่มีการแก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2
ที่สำคัญการนำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมาประกอบในการดำเนินการในขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกันเพราะไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ประสบผลสำเร็จได้
นายราเมศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนมองการตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติของรัฐบาลโดยหลักถือว่า เป็นจุดตั้งต้นที่ดีแต่ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความตั้งใจจริงโดยจะต้องไม่มีการพิจารณาที่ล่าช้าเกินสมควร ไม่ควรตั้งท่านานจนเกินไป และการเตรียมการเพื่อจะนำไปสู่การจัดทำประชามติมีความจำเป็นที่จะต้องให้มีความละเอียดรอบคอบรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
นายราเมศกล่าวอีกด้วยว่า สำหรับการยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในสภาชุดที่ผ่านมาได้มีร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 6 ฉบับ โดยพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย
ร่างฉบับที่ 1 เป็นการเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่เรื่องเพิ่มสิทธิเสรีภาพของประชาชน สิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิชุมชน สิทธิผู้บริโภค สิทธิในที่ดินทำกินซึ่งต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้บรรจุเรื่องสิทธิของประชาชนลดน้อยถอยลงไปอย่างมาก
ร่างฉบับที่ 2 ตัดอำนาจ สว.ในการแก้รัฐธรรมนูญ
ร่างฉบับที่ 3 เพิ่มความเข้มข้นในกระบวนการตรวจสอบการทุจริต
ร่างฉบับที่ 4 แก้ไขที่มาของนายกรัฐมนตรี และยกเลิกอำนาจ สว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี
ร่างฉบับที่ 5 เรื่องกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองแรกที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เพื่อทำให้ท้องถิ่นดีขึ้น
ร่างฉบับที่ 6 แก้ไขระบบเลือกตั้ง ซึ่งเป็นร่างเดียวที่ผ่านความเห็นชอบการพิจารณาจากรัฐสภา
"พรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น" นายราเมศ กล่าวสรุปทิ้งท้าย