ความคืบหน้าการเอาผิดตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีบ้าน “กำนันนก” ล่าสุด พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยคดีที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ทั้งคดีฆ่าและคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์ ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้รับโอนทั้งสองคดีมาจากคณะทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน
จากนั้น ได้มีการแบ่งกลุ่มข้าราชการตำรวจที่เข้าร่วมงานที่สำนักงานบ้านกำนันนก 29 นาย เป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 2 คน กลุ่มที่ 2 ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา 6 คน กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันทีขณะเกิดเหตุ 6 คน และกลุ่มที่ 4 มีพฤติการณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
โดยได้หารือกับอัยการแล้ว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจในงานเลี้ยงในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 ทั้งหมด 15 นาย หนึ่งในนั้น คือ พ.ต.อ.ฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สถานีตำรวจนครบาลพญาไท และจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายสัปดาห์นี้
ส่วนข้อหาให้การเท็จยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า ตำรวจทั้ง 15 นายมีพฤติการณ์ช่วยเหลือสารวัตรศิวกรจริง
นอกจากนี้ ในส่วนของกล้องวงจรปิดภายในงานเลี้ยง พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า มีทั้งหมดจำนวน 15 ตัว มีตัวที่เสีย 2 ตัว ใช้การได้ 13 ตัว และใน 13 ตัว มีตัว มีไฟล์ 12 ตัว ไม่มีไฟล์บันทึก 1 ตัว โดยใน 12 ตัวที่มีไฟล์ สามารถดูได้ปกติ 12 ตัว และมี 1 ตัว ที่บันทึกถึง 10.16 น. 1 ตัว ซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดเบอร์ 6 ที่ทางสอบสวนกลาง ยังพยายามกู้ข้อมูลในกล้องวงจรปิดจุดสำคัญที่บันทึกภาพบริเวณลานจัดงาน แต่ถูกดึงปลั๊กหรือถอดสายแลนออกไปตั้งแต่เวลาประมาณ 10.16 น. ก่อนเริ่มงาน โดยหลังจากส่งให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบแต่ไม่สามารถกู้ภาพได้
"จะส่งให้ผู้เชี่ยวชาญ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และหน่วยงานผู้เชี่ยวชาญของต่างประเทศช่วยตรวจสอบต่อไป คาดว่าหากสามารถกู้ข้อมูลมาได้ จะสามารถเห็นภาพสำคัญช่วงเกิดเหตุ ภาษากายกำนันนกขณะสั่งการแต่ยืนยันว่าถึงไม่ได้ข้อมูลนี้มา ก็สามารถเอาผิดกำนันนกได้แน่นอน เพื่อมาตรวจสอบว่าตรงกับข้อมูลที่ได้มาจากทางชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 หรือไม่"
ส่วนการตรวจสอบการฮั้วประมูลของบริษัทเครือข่ายกำนันนกนั้น จากการตรวจสอบได้พบข้อพิรุธหลายประเด็น โดยพบว่า บริษัทเครือข่ายกำนันนกเปิดมาตั้งแต่ปี 2540 ได้ร่วมประมูล 1,527 โครงการ ชนะประมูล 1,314 โครงการ หรือคิดเป็นร้อยละ 85 ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่อยู่ในจังหวัดนครปฐม
“บริษัทของกำนันนก ยังมีสถิติชนะประมูลโครงการเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนวิธีการประมูลเป็นรูปแบบที่เป็น e-bidding ในปี 2558 โดยชนะในราคาที่ต่างกันเพียงหลักพันหรือหลักหมื่นบาท อีกทั้งบริษัทที่ร่วมประมูลก็ยังเสนอราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งตำรวจสอบสวนกลางจะประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบในประเด็นนี้ต่อไป”
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการโอนคดีกำนันนก มาให้ตำรวจสอบสวนกลางทำต่อ เนื่องจากพบความผิดปกติอะไรในการทำคดีหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ ระบุว่า เนื่องจากคดีนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ซึ่งทางสอบสวนกลาง ได้ดำเนินการปราบปรามในส่วนนี้อยู่แล้ว รวมถึงแนวทางการทำคดีจากชุดตำรวจภูธรภาค 7 ก็มีแนวทางการสอบสวนเป็นไปในแนวทางเดียวกัน สามารถนำมาดำเนินการต่อได้ และสามารถทำงานร่วมกับชุดทำงานได้ตามปกติ