วันนี้ (28 กันยายน 2566) นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกระบี่ พร้อม สส.พรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวกรณีให้นายกรัฐมนตรีเร่งพิจารณา เปิดคาสิโนถูกกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาทั้งการเรียกรับส่วยสินบน การเรียกรับผลประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งหากพิจารณาล่าช้าจะส่งผลให้ประเทศเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ระบุว่า ปัญหาการทุจริตและการเก็บส่วย รวมถึงการเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่รัฐผ่านคาสิโนผิดกฎหมาย ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองอย่างมหาศาล หากไม่เร่งควบคุมการพนันผิดกฎหมายจะเป็นช่องว่างให้เจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดกฎหมายเสียเอง
ดังนั้น หากรัฐบาลเร่งพิจารณาการเปิดคาสิโนถูกกฎหมายจะมีส่วนช่วยในการลดปัญหาบ่อนเถื่อนและการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายให้น้อยลงหรือหมดไปจากประเทศ อีกทั้งยังเป็นการปกป้องประชาชนไม่ให้ถูกหลอก รวมถึงดึงเงินจากประชาชนที่นิยมเล่นการพนัน แต่ต้องเดินทางไปเล่นคาสิโนยังต่างประเทศ
โดยประเมินว่า การเปิดคาสิโนอย่างถูกกฎหมาย จะช่วยสร้างเงินหมุนเวียนให้กับประเทศสูงถึง 357,000 ล้านบาท ตามการศึกษาของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายสฤษฏ์พงษ์ ระบุว่า ในสมัยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านมา ได้สนับสนุน ให้มีการตั้งสถาบันบันเทิงแบบครบวงจรใน 3 พื้นที่ประกอบด้วยกรุงเทพมหานครและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ในรัศมีไม่เกิน 100 กิโลเมตรจากสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา จังหวัดท่องเที่ยวหลัง 22 จังหวัด และจังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
สำหรับในพื้นที่ภาคใต้ ควรมีการสร้างที่จังหวัดภูเก็ต พังงาและกระบี่ โดยหากเป็นคนไทยเข้าใช้บริการจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไปและต้องแสดงสถานะการเงินย้อนหลัง 6 เดือน รวมถึงมีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 500,000 บาทและต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าใช้บริการ เพื่อเป็นการจำกัดบุคคลในการเข้าใช้
สำหรับการผลักดันการเปิดคาสิโนถูกกฎหมายนั้น ที่ผ่านมาที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์
โดยพิจารณาศึกษาญัตติดังกล่าว 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. ประเด็นด้านกฎหมายการจัดเก็บรายได้และภาษี 2. ประเด็นด้านการป้องกัน แก้ไขปัญหาผลกระทบและศึกษาพื้นที่ความเป็นไปได้และหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร 3. ประเด็นด้านการลงทุนและรูปแบบการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร และ 4. ประเด็นด้านรูปแบบธุรกิจ Gaming
ทั้งนี้คณะกรรมาธิการ ได้ทำการศึกษาและทบทวนวรรณกรรมจากเอกสารของทางราชการข้อมูลจากระบบสารสนเทศ สิ่งตีพิมพ์ต่าง ๆ ข้อมูลทางวิชาการในเว็บไซต์ของประเทศไทยและต่างประเทศ การสัมภาษณ์เชิงลึก การให้ข้อมูลจากผู้แทนของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนการศึกษาดูงานและสัมมนารับฟังความคิดเห็น ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องด้วย