3 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามที่ "กระทรวงศึกษาธิการ" เสนอแต่งตั้งข้าราชการประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน จำนวน 4 ราย ดังนี้
1.นายอรรถพล สังขวาสี ตำแหน่ง ปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
2.นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ตำแหน่ง เลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
3.ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4.นายยศพล เวณุโกเศศ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
นอกจากนี้ ครม.ยังได้มีมติอนุมัติตามที่ "กระทรวงอุตสาหกรรม" เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนข้าราชการและเพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ จำนวน 4 ราย ดังนี้
1.นายวันชัย พนมชัย รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
2.นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
3.นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
4.นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ นายอรรถพล ปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา นั้น ระบุภายหลังทราบข่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกว่าการแต่งตั้งครั้งนี้ไม่เป็นธรรมและคิดอยากจะลาออกจากราชการ โดยได้เข้าไปสอบถามเหตุผลกับ รมว.ศธ. ซึ่งให้เหตุผลว่าอยากให้ช่วยเรื่องเดินหน้า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ และขอให้ทำงานต่อไป เพื่อผลักดันงานวิชาการให้ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ดี ยอมรับว่า รู้สึกเสียใจ เพราะไม่ได้มีความผิดอะไร และจากนี้จะขอลาพักร้อนเป็นเวลา 10 วัน เพื่อให้ รมว.ศธ. ทบทวนความเหมาะสมเพราะการให้ตนกลับไปนั่งเลขาธิการ สกศ. เหมือนกับถูกลดศักดิ์ศรี และอาจจะพิจารณาใช้ฟ้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไปด้วย
ทั้งนี้ เมื่อมีมติดังกล่าวออกมา นายอรรถพล ระบุว่า ตนนั้นเคารพการตัดสินใจของ รมว.ศธ. เพราะคงมีดุลยพินิจแล้วแต่ถ้าจะให้ไปเริ่มต้นทำงานที่เคยทำมาแล้วก็ไม่อยากที่จะทำและตนเองก็ครบ 60 ปีแล้ว ปีนี้ถือว่า เป็นปีแถม อาจจะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานน่าจะดีกว่า เพราะผมถือว่าไม่ได้รับเกียรติเท่าที่ควรแต่ขอให้เวลาปรึกษาผู้ใหญ่และครอบครัวให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจอีกครั้ง