"อนุทิน" จ่อล้อมคอกห้ามออกใบอนุญาตพกปืน-ขึ้นทะเบียน "บีบีกัน"

04 ต.ค. 2566 | 11:25 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ต.ค. 2566 | 11:29 น.

"มท.1" เตรียมคุย "อธิบดีปกครอง" ลุยสังคายนาทั้งระบบ จ่อล้อมคอกห้ามออกใบอนุญาตพกปืนให้บุคคลทั่วไปทุกกรณี พร้อมขึ้นทะเบียน "บีบีกัน" และสิ่งเทียบอาวุธร้ายแรง 

4 ตุลาคม 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการควบคุมอาวุธปืน หลังเกิดเหตุเยาวชน 14 ปีบุกกราดยิงกลางห้างสรรพสินค้าสยาม พารากอนว่า โดยปกติอาวุธปืนทุกกระบอกในประเทศไทยจะมีทะเบียนอยู่แล้ว ดังนั้น จึงสามารถสืบย้อนกลับไปว่า เจ้าของอาวุธปืนเป็นใครและมีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนหรือไม่ซึ่งต้องยอมรับว่า ส่วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาตจึงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ตนตั้งใจว่าจะหารือกับอธิบดีกรมการปกครอง เพื่อกำหนดนโยบายว่าในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะไม่มีการออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนให้กับบุคคลทั่วไป เพราะไม่มีเหตุผลความจำเป็น 

สำหรับผู้ที่ให้เหตุผลว่า ชีวิตอยู่ในอันตรายหากยิ่งอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนจะยิ่งเพิ่มอันตรายมากขึ้น เพราะอาวุธปืนเป็นอาวุธร้ายแรงที่ทำร้ายคนได้ต้องควบคุม เข้มงวด รวมไปถึงกระสุนปืนจะต้องไม่ซื้อหาได้โดยง่าย ต้องมีการตั้งกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน

เช่นเดียวกับสนามซ้อมยิงปืน แม้ทุกวันนี้จะมีระเบียบ ข้อบังคับและกฎหมายในการควบคุมการเข้าไปใช้พื้นที่อยู่แล้ว แต่ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะขณะนี้เป็นเรื่องของการหลีกเลี่ยงกฎหมาย ในขณะที่ผู้คุมกฎระเบียบก็ไม่เคร่งครัดมากพอ

กรณีเยาวชน 14 ปีรายนี้ ชัดเจนอยู่แล้วว่า ไม่สามารถเข้าถึงอาวุธปืนหรือเข้าสนามซ้อมยิงปืนได้ จึงเป็นเรื่องที่ผิดตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไม่มีการตรวจสอบมาก่อนเลยหรือ ที่สำคัญเมื่อเด็กมีอาการเจ็บป่วย ทำไมผู้ปกครองถึงยังพาไปยิงปืน ตามกฎหมายผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่สามารถครอบครองอาวุธปืนได้

ดังนั้นความรับผิดชอบจะไปตกอยู่ที่ผู้ปกครอง หากมีอาวุธปืนจะต้องเก็บในที่มิดชิดเพราะแม้จะมีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน ก็ไม่สามารถนำไปยิงสวนคนอื่นได้ เพราะมีกฎเกณฑ์อยู่แล้ว เช่น ห้ามทิ้งไว้ในรถ ห้ามบรรจุกระสุนทิ้งไว้ในแม็กกะซีนซึ่งครอบคลุมความปลอดภัยไว้หมดแล้ว เพียงแต่คนไม่เคารพกฎหมาย นายอนุทิน กล่าวและว่า

ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยเองก็ต้องจัดระเบียบ ไม่ให้มีการเข้าถึงหรือได้มาซึ่งปืนและอาวุธร้ายแรงเหมือนกับที่ผ่านมา บ้านเมืองมีกฎหมาย หากมีภัยต้องแจ้งความ ให้เจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานเข้าไปดูแล

จากนี้อธิบดีกรมการปกครองจะเข้าไปตรวจสอบและป้องกันอาจเพิ่มการลงโทษไม่ให้เกิดความรุนแรง ไม่ให้คนพกปืนไปไหนมาไหนในชีวิตประจำวัน ที่นี่ไม่ใช่ดินแดนคาวบอย ยืนยันว่า มาตรการการตรวจสอบและป้องกันการครอบครองอาวุธปืนจะรวมไปถึงปืนดัดแปลงและสิ่งเทียมอาวุธ อย่างปืนบีบีกัน สมัยก่อนหาซื้อได้ตามท้องตลาดแต่หากพบว่า สามารถนำไปดัดแปลงได้ก็จะต้องควบคุม อาจไปถึงการจำกัดการซื้อและการเข้าถึง เพราะปืนบีบีกันมีความอันตราย หากยืนในระยะประชิดก็มีอนุภาคทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสได้เช่นกัน

ดังนั้น จากนี้อาจจะเปิดให้มีการขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองปืนบีบีตลอดจนสิ่งเทียมอาวุธอื่นอย่างถูกต้อง

"ผมจะถือโอกาสที่เป็นรัฐมนตรีเข้าใหม่และอธิบดีกรมการปกครองคนใหม่ ไม่ได้ไปติดหนี้บุญคุณใครหรือติดค้างใคร ไม่มีพรรคพวกที่ไหนในกระทรวงหรือกรมที่ผมรับผิดชอบอยู่ก็จะดูให้เต็มที่ เอาให้แห้ง ตรงไหนที่กฎหมายไปได้ใช้กฎหมาย ตรงไหนที่กฎหมายไปไม่ได้ก็จะเสนอให้แก้กฎหมาย

วันนี้เรามีรัฐบาลที่มีเสียงถึง 320 เสียง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประชาชน ความสงบสุขของบ้านเมือง หากจำเป็นต้องแก้กฎหมาย จะมีใครขวางไหม" นายอนุทิน ระบุ