ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ เรื่องคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด 11 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ด้วย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อ ศาลล้มละลายกลาง ขอให้ลูกหนี้ทั้งสิบเอ็ดล้มละลาย และศาลได้มีคําสั่งลงวันที่ 12 กันยายน 2566
ให้พิทักษ์ทรัพย์ของพลตรีจําลอง ศรีเมือง ลูกหนี้ที่ 1, นายสนธิ ลิ้มทองกุล ลูกหนี้ที่ 2, นายพิภพ ธงไชย ลูกหนี้ที่ 3,นายสุริยะใส กตะศิลา ลูกหนี้ที่ 4, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ลูกหนี้ที่ 5, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ลูกหนี้ที่ 6
นายอมรหรืออิทธิหรืออมรเทพหรือรัชต์ชยุตม์หรืออมรศักดิ์ อมรรัตนานนทหรือศิรโยธินภักดีหรืออิทธิประชา ลูกหนี้ที่ 7,นายสําราญ รอดเพชร ลูกหนี้ที่ 8, นายศิริชัย ไม้งาม ลูกหนี้ที่ 9,นางมาลีรัตน์หรือมาลีรักษ์ แก้วก่า ลูกหนี้ที่ 10 และนายเทิดภูมิไทหรือเทิดภูมิ ใจดี ลูกหนี้ที่ 11 เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 แล้ว
ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลได้มีคําสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว
มีอํานาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 และบุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้
หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคําสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา 24/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา 24/1 แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทตามมาตรา 173/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชําระหนี้ในคดีนี้ จะเป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคําขอรับชําระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคําคู่ความ สํานักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดี หรือ สํานักงานบังคับคดีซึ่งลูกหนี้มีภูมิลําเนาอยู่ ภายในกําหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันที่โฆษณาคําสั่งนี้ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กําหนดวันลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 17 ตุลาคม 2566
ที่มา : ราชกิจจานุเบกษา