รายงานพิเศษ : “ก้าวไกล”ติดหล่มปมฉาว-คดี ม.112

03 พ.ย. 2566 | 04:33 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ย. 2566 | 05:16 น.

“ก้าวไกล”ร้าวหนัก หลังพบ 2 ส.ส.มีพฤติการณ์คุกคามทางเพศจริง มีมติขับ “วุฒิพงศ์”พ้นส.ส.ปราจีนบุรี อุ้ม“ไชยามพวาน”ส.ส.กทม. สมาชิกพรรคต่างผิดหวัง จี้ให้ลาออกจาก ส.ส. ขณะที่ศาลรธน.เร่งพิจารณาคดีสถานะ “พิธา” และปมก้าวไกล แก้ ม.112

เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 พ.ย. 2566 มติที่ประชุมส.ส.และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล มีมติ 120 เสียง ให้ขับ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี ออกจากพรรค จากผู้เข้าร่วมประชุม 128 คน 

ขณะที่ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.กทม. มีมติ 106 เสียง เห็นควรให้ขับออกจากพรรค แต่เสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ของ ส.ส.และกรรมการบริหาร(กก.บห.) ที่มีอยู่ คือ 116 เสียง จาก 154 จึงไม่สามารถมีมติให้ขับพ้นออกจากสมาชิกพรรคได้

 

โดยส.ส.ทั้ง 2 คน ติดหล่มกรณีถูกร้องเรียนคุกคามทางเพศทีมงานสาวของพรรค

2 ส.ส.คุกคามทางเพศจริง

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชี้แจงหลังมีมติดังกล่าวว่า ทั้ง 2 กรณี มีพฤติการณ์คุกคามทางเพศจริง ถือเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง จึงมติให้ นายวุฒิพงศ์ พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค

 

ขณะที่นายไชยามพวาน เสียงส่วนใหญ่ 106 เสียง เห็นควรให้ขับออกจากพรรค แต่เนื่องจากเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 จึงยังไม่สามารถขับพ้นสมาชิกได้ แต่ที่ประชุมเห็นว่าควรติดสิทธิ์พึงมีทั้งหมด และให้คาดโทษไปตลอดสมัยประชุม หากมีพฤติกรรมเข้าข่ายคุกคามทางเพศอีก อาจจะต้องให้พ้นจากสมาชิกพรรค 

นอกจากนี้ ที่ประชุมตั้งเงื่อนไขว่า นายไชยามพวาน จะต้องออกมายอมรับผิด ขอโทษต่อสังคม และชดเชยเยียวยาผู้เสียหาย แต่หาก นายไชยามพวาน ยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด ไม่ยินดีที่จะขอโทษ และเยียวยาผู้เสียหาย ก็จะประชุมกันอีกครั้งเพื่อมีมติขับออกจากสมาชิกพรรค 

“แม้ว่าไม่ได้เกิดการบังคับเขินใจและไม่ได้ปฏิเสธ ดูเหมือนเป็นการยินยอมพร้อมใจกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่กรณีนี้จะชี้ให้เห็นว่า การยินยอมพร้อมใจกันทั้ง 2 ฝ่าย มันไม่เป็นการยินยอมพร้อมใจอย่างแท้จริงๆ หากอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ทางอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน หากคนที่อยู่ในสถานะที่สามารถให้คุณให้โทษกับผู้ใต้บังคับบัญชา หรือ ทีมงาน ตรงนี้เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียม จะมาอ้างว่ายินยอมพร้อมใจไม่ได้”

ผิดหวังมติก้าวไกล 

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงมติพรรคก้าวไกลดังกล่าวว่า การใช้อำนาจที่ได้จากตำแหน่งของตน ไปจูงใจล่อลวงบุคคลอื่นให้กระทำการตามที่ตนต้องการเพื่อแลกเปลี่ยนกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับเรื่องทางเพศ เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ในยุคสมัยนี้ 

หากพรรคก้าวไกลต้องการยกระดับมาตรฐานในเรื่องเหล่านี้ ต้องการป้องกัน ต่อต้านการคุกคามทางเพศ และความรุนแรงทางเพศภายในองค์กรหรือสถานที่ทำงานให้ได้ตามที่โฆษณาไว้จริง ผลมติที่ออกมาวันนี้ นับว่าน่าผิดหวัง 

แต่เรื่องแบบนี้ เมื่อทั้งคณะกรรมการวินัยพรรค และทั้ง ก.ก.บห. มีมติว่ามีการกระทำความผิดร้ายแรงแล้ว หาก ส.ส.ผู้ถูกร้องรู้จักมาตรฐานใหม่ในทางการเมืองอยู่บ้าง รู้จักความรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย พรรค เพื่อน ส.ส.คนอื่น ผู้สนับสนุนพรรค และสังคมอยู่บ้าง คิดถึงตำแหน่งหัวโขนที่พึ่งได้มาอย่าง ส.ส.ให้น้อยลงบ้าง ส.ส.ผู้ถูกร้องก็ควรแสดงความรับผิดชอบ โดยไม่ต้องมาถึงวันนี้ที่พรรคต้องใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ที่ประชุม ส.ส.ต้องมาลงมติ

ส.ส.หญิงแห่ไว้ทุกข์ดำ

ภายหลังมติพรรคก้าวไกลออกมาดังกล่าว และเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นเรื่องที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศ บรรดา ส.ส.หญิงของพรรคหลายราย พร้อมใจกันเปลี่ยนโปรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองเป็นสีดำ อาทิ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิธินันท์ ส.ส.กทม. น.ส.ภัสรินทร์ รามวงศ์ ส.ส.กทม. 

ขณะที่ น.ส.ภัสราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.กทม. โพสต์ข้อความด้วยว่า "หน้าด้าน ไม่มีความละอายแก่ใจ เป็นคนให้ได้ก่อนค่อยเป็นผู้แทนประชาชน" อีกทั้งยังเเท็กไปที่บัญชีทวิตเตอร์  @chaiyamparwaan ของนายไชยามพวาน (ชื่อเล่นปูอัด) อีกด้วย 

จี้“ไชยามพวาน”ลาออก 

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ทวิตเตอร์ข้อความสั้นๆ ว่า “ไชยามพวาน ควรลาออก” 
ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า “ถึงขนาดนี้แล้ว ดิฉันขอเรียกร้องให้ ส.ส.ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน"

"ไอซ์”ไม่สังฆกรรมพรรค 

ด้าน น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ “ไอซ์” ส.ส.กทม. โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุว่า ตัวไอซ์โหวตให้ขับออกทั้งสองกรณี ไอซ์ชอบเรื่องที่ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ ได้ยกตัวอย่างในที่ประชุม คือเรื่อง ส.ส.ญี่ปุ่น ที่ยังอยู่ในอาการมึนเมาแล้วไปอภิปรายในสภา พอมีคนทักท้วงเรื่องนี้ โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสืบสวนสอบสวน หรือ รอให้เรื่องเข้าสู่การพิจารณา ส.ส. ท่านนั้นรู้อยู่แก่ใจตัวเองว่าผิด จึงรับผิดชอบด้วยการลาออก นี่คือมาตรฐานเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมของ ส.ส.ท่านนั้น

“วันนี้น่าผิดหวังที่มาตรฐานในการรับผิดชอบต่อสังคมในการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ของเพื่อนสมาชิกที่กระทำผิดในกรณีอื่นๆ ยังไม่สูง ...ระหว่างที่รอผู้กระทำผิดแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและเหยื่อ ไอซ์จะขอหยุดร่วมกิจกรรมกับพรรค หยุดร่วมกิจกรรมกับเพื่อนสมาชิกในพรรค กิจการในโควต้าและขอลาป่วย เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในหลักการ จนกว่าจะมีการแถลงรับผิดและขอโทษเหยื่อ อย่างจริงใจของผู้กระทำ” 

                           รายงานพิเศษ : “ก้าวไกล”ติดหล่มปมฉาว-คดี ม.112

“วุฒิพงศ์”ผิดหวังมติพรรค 

ด้านนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ที่ถูกขับออก ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า “เมื่อมติพรรคออกมาให้ขับผมออก ผมพร้อมเคารพ แม้จะผิดหวังก็ตาม อย่างไรก็ดี ผมยืนยันว่าพร้อมจะทำหน้าที่ ส.ส.ปราจีนบุรีต่อไป และยินดีขอโทษประชาชนปราจีนบุรี และโหวตเตอร์ทุกคนด้วย” 
สำหรับบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหายในประเด็นที่เกิดขึ้น เข้าใจว่าตนเป็นผู้ข่มขืนผู้เสียหาย ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องหมิ่นประมาทด้วย 

“ไอติม”เคลียร์อุ้มพวกพ้อง 

ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ “ไอติม” โฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่ง ชี้แจงกรณีมีบางเพจได้กล่าวหาว่าเป็น 1 ใน ส.ส. ที่ลงมติไม่เห็นชอบกับการขับออก นายไชยามพวาน รวมถึงกล่าวหาว่ารวบรวมเสียง ให้คนโหวตไม่เห็นด้วยกับการขับออกเพื่อปกป้องพวกพ้อง เนื่องจากรู้จักกับนายไชยามพวานมาก่อน ที่เขาจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล

“ผมจึงเป็น 1 คน ที่ลงมติเห็นด้วยกับการขับออก คุณไชยามพวาน ซึ่งเป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผยที่เพื่อนๆ ส.ส.ทุกคนรับรู้ และเป็นการตัดสินใจบนหลักการและเหตุผลที่ผมยึดถือ

ผมเชื่อว่าคงไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับเหตุผล หรือ การตัดสินใจของผม แต่ผมยืนยันว่า ทุกการตัดสินใจของผม ยึดอยู่บนหลักการที่ผมเชื่อว่าถูกต้อง และเป็นหลักการที่ต้องนำมาใช้กับทุกคนอย่างเสมอภาค” นายพริษฐ์ ระบุ

++++

ศาลรธน.ถกคดี"พิธา-ก้าวไกล”แก้ ม.112 

อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2566 ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลฯ วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส. ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นใน บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการสื่ออยู่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 

คดีนี้ศาลฯ ได้สั่งรับคำร้องเมื่อ 19 ก.ค. 2566 และ นายพิธา ผู้ถูกร้องได้ยื่นขยายระยะเวลาการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา 2 ครั้งๆ ละ 30 วัน ซึ่งศาลฯ อนุญาตตามคำขอ 

ศาลฯ อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย แต่เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้รอคำชี้แจง และพยานหลักฐานจากบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งคำชี้แจงและพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อ ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ 

เช่นเดียวกับคดีการกระทำของ นายพิธา ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างกฎหมายยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ศาลก็ได้นัดพิจารณาคดีต่อ ในวันที่ 15 พ.ย. 2566