นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในปัญหาต่างๆ หารือ ประกอบด้วย ส่วยสติ๊กเกอร์ทางหลวง การแก้ไขปัญหาลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน และมาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ก่อนการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 (2023 APEC Economic Leaders’ Meeting) และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
สำหรับวงหารือส่วยทางหลวง ได้หารือร่วมกับพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล อธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก สมาพันธ์และสมาคมรถบรรทุก ในเรื่องการตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุกบนโครงข่ายทางหลวงหลัก เช่น ถนนพหลโยธินถนนเพชรเกษม ถนนสุขุมวิท ถนนพระราม 2 ถนนสายเอเชีย รวมถึงเรื่องการตรวจสอบสภาพรถ
"ปัญหาส่วยทางหลวง ตนย้ำว่าต้องหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งส่วนมากปัญหาเกิดจากการหนีไม่ยอมเข้าด่าน การขาดตาชั่งในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน และการตรวจสอบที่เป็นระบบ ไปจนถึงอัตราค่าปรับที่ไม่เข้มงวดเท่าที่ควร ตนให้ทางกทม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงคมนาคม ร่วมมือกันทั้งเรื่องของข้อมูล และการติดตามเอาผิด"
ด้านวงประชุมปัญหาหมูเถื่อนมีผู้เข้าร่วมหารือประกอบด้วย ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมหารือด้วย โดยวงหารือดังกล่าวนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอย่างเคร่งเครียด และกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ได้สั่งการในการแก้ปัญหาไปแล้ว ทำไมถึงไม่มีความคืบหน้า
"เรื่องหมูเถื่อนตนติดตามปัญหาที่ได้ให้ทางกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ รวมถึง DSI ให้เร่งรัดดำเนินการจับกุมผู้นำเข้าและเผาหมูเถื่อน พร้อมให้ ปปง. เร่งดำเนินการอายัดทรัพย์ผู้ประกอบการที่กระทำผิดโดยด่วน ซึ่งคาดว่าน่าจะทำการจับกุมผู้ประกอบการหมูเถื่อนรายใหญ่"
ส่วนวงหารือถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว มีผู้ร่วมหารือได้แก่ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
"สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยว และททท. เร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยในช่วงสิ้นปีนี้ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งว่าได้มีการปราบปรามอาวุธปืน ยึดปืนที่ไม่ถูกกฎหมาย ตลอดจนปัญหาเรื่องกลุ่มทุนจีนสีเทา และ fake news ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาด้วย ตนมั่นใจว่า ประเทศไทยมีความพร้อมและมีความปลอดภัยในการต้อนรับนักท่องเที่ยว"