วันที่ 10 ธันวาคม 2566 นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊ก Chao Meekhuad เรื่องพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ผู้นำพรรคไม่มี "สจฺจํ เว อมตา วาจา" มีเนื้อหาระบุว่า
"ผมไม่บอกว่าจะได้กี่เขต แต่วันที่พรรคมีวิกฤต ผมประกาศไว้ชัดเจนแล้ว รอบนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่ำกว่า 52 ที่ ผมเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต เลิกเล่นนะ ไม่ใช่หยุดเล่น เลิก คือ หันหลังเดินออกไปเลย”
เริ่มต้นเรื่องราวที่อยากบันทึกไว้ ด้วยคำพูดของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน ที่กล่าวไว้ในหลายเวทีหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
“วันที่ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มี ”สจฺจํ เว อมตา วาจา“ เพราะจากที่เคยบอกจะวางมือทางการเมือง กลับมารับหน้าที่กุมบังเหียนพรรค ด้วยเหตุผลว่า “ผมมีความจำเป็นครับ และผมก็อยากจะเห็นพรรคเดินไปข้างหน้า ผมจะทำทุกอย่างให้พรรคมีเอกภาพ ผมจะทำให้พรรคซึ่งมีอยู่แล้วนี้ ยึดมั่นในหลักการและอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และที่สำคัญเมื่อสักครู่ที่ผมคุยกับท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ ก็คือ ผมยืนยันกับหัวหน้าอภิสิทธิ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่”
อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุต่อไปว่า ก้าวแรกของเส้นทางหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ก็ได้ทำลายหลักการ คำขวัญของพรรค ”สจฺจํ เว อมตา วาจา“ คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะท่านไม่ได้รักษาสัจจะ สัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
“ผมไม่ได้รังเกียจ นายเฉลิมชัย เป็นการส่วนตัว แต่การที่ นายเฉลิมชัยตระบัดสัตย์ต่อคำพูดตนเองที่ให้ไว้ต่อสาธารณะ แล้วก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสิ่งที่ไม่สง่ามในทางการเมือง และเป็นการทำลายพรรคประชาธิปัตย์ เพราะทุกคำพูดของ นายเฉลิมชัย นับตั้งแต่วันนี้ คือ คำพูดของพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย พูด ก็คือพรรคพูด เพราะฉะนั้นตราบใดที่นายเฉลิมชัย ยังเป็นผู้นำพรรค พรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่มีความน่าเชื่อถือต่อสาธารณะอีกต่อไป”
นายเชาว์ ระบุด้วยว่า “ผมไม่แน่ใจว่า นายเฉลิมชัย จะก้มกราบพระแม่ธรณีบีบมวยผม บริเวณลานที่ทำการพรรค ซึ่งมีคำขวัญ “สจฺจํ เว อมตา วาจา ” “คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย“ จารึกอยู่ใต้ฐานพระแม่ธรณีฯ ตราสัญลักษณ์ของพรรค อย่างไม่ละอายได้อย่างไร ในเมื่อท่านไม่ได้มีวาจาสัตย์จริง ทุกคำพูดที่พ่นออกมาจะฟื้นฟูพรรค
สำหรับผมไม่มีความน่าเชื่อถือแม้แต่น้อย เพราะวันนี้คำว่า “พรรค” ถูกทำลายจากคำว่า “พวก” “อุดมการณ์” ถูกทำลายเพราะความกระสันในอำนาจและผลประโยชน์ ไม่น่าแปลกใจที่ นายเฉลิมชัย จะไม่กล้าฟันธงว่า พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ไม่ร่วมรัฐบาล เพราะบางคนเห็นแสงรำไร กับ 2 โควตารัฐมนตรีในรัฐบาลที่ยังว่างอยู่” นายเชาว์ ระบุ