หมอมิ้ง เปิดเงื่อนไข ปรับครม.เศรษฐา 314 เสียงดัง-แน่นเหนียว

27 ธ.ค. 2566 | 08:04 น.
อัพเดตล่าสุด :27 ธ.ค. 2566 | 16:14 น.

หมอมิ้ง-นพ.พรหมินทร์ นายกฯน้อย เปิดเงื่อนไข ปรับครม.เศรษฐา ลั่น 314 เสียงพรรคร่วมรัฐบาล เหนียวแน่น-เสียงต้องดัง

วันนี้ (27 ธันวาคม 2566) นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดบทสนทนากับผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ถาม-ตอบทุกคนถามในวาระครบ 108 วันการทำงานของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และความเหนียวแน่นของพรรคร่วมรัฐบาล 314 เสียง  

นพ.พรหมินทร์ กล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงในปี 2567 ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี-รัฐบาลอยู่ไม่ครบวาระ คือ เรื่องเศรษฐกิจโลก ส่วนเรื่องเสถียรภาพของภาครัฐ ยืนยันว่า “แน่นเหนียว” และเป็นสิ่งที่ถ้ามุ่งไปสู่ประโยชน์ของประชาชน “เสียงเราดัง” 

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ถ้าถามว่าทำแล้ว มีอะไรที่ไม่ทันใจ สิ่งอยากทำมันเยอะกว่านี้เยอะ แต่ว่าทำแล้วต้องติดข้อกฎหมาย ติดข้อหน่วยราชการ สร้างความเข้าใจระหว่างคน สำคัญ คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นทับถม อย่างน้ำท่วม เราไม่ได้คาดไว้ เรื่องของอิสราเอล เราเข้ามาช่วยแก้ปัญหา เมื่อเกิดปัญหาขึ้นเราก็เร่งแก้ไข ให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่แค่มีการประชุม ได้โทรติดตามและสั่งการ 

หมอมิ้ง เปิดเงื่อนไข ปรับครม.เศรษฐา 314 เสียงดัง-แน่นเหนียว

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า หลายเรื่องที่ได้คนไทยกลับมาเป็นส่วนใหญ่มาส่วนใหญ่ ไม่ใช่ต้องมีความพยายามภาครัฐและได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย หลายเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้ทาง public ได้ เราทำทุกทาง และได้รับการความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่ากระทรวงต่างประเทศ หรือฝ่ายความมั่นคง

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า 3 เดือนนี้ สิ่งที่สำคัญ คือ หนึ่ง การกอบกู้เกียรติภูมิประเทศไทยในเวทีโลก ทำให้เปิดตลาดและสิ่งที่อ่อนด้อยมาในช่วงที่ผ่านมา เราสามารถฟื้นความเชื่อมั่นในเชิงของต่างประเทศ แน่นอนที่สุด เหตุผลสำคัญ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ เพราะวันนี้โลกทั้งโลกเชื่อมกันหมด ไม่ว่าจะเป็นฟื้นในเรื่องของการท่องเที่ยว การลงทุนจากต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลตรงกับประเทศ ประชาชนไทย และ สอง กอบกู้เรื่องวิกฤตต่าง ๆ ทำได้เร็ว เราเป็นรัฐบาลของประชาชน มีความตั้งใจ 

หมอมิ้ง เปิดเงื่อนไข ปรับครม.เศรษฐา 314 เสียงดัง-แน่นเหนียว

“ผมว่าจุดเด่นอีกเรื่องหนึ่ง คือ ท่านอาจจะเห็นว่า เป็นพรรคร่วม แต่ที่แท้เราเป็นรัฐบาลของประชาชน เอาปัญหาประชาชนเป็นที่ตั้ง”นพ.พรหมินทร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังเดือนพฤษภาคมปี 67 ไม่มี สว.ที่มาจากการสรรหาแล้ว จะทำให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็งทางการเมืองเพิ่มขึ้นจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ถ้าคิดจากวิธีคิดแบบเก่า แบ่งเป็นพวก แบ่งเป็นพรรค วันนี้พอเป็นพรรคร่วม ที่คุณ (สื่อตั้งฉายา) เรียกว่า แกงส้มผลักรวม นั่นคือ รวมเพื่อประเทศ รวมเพื่อประชาชน เราไม่ได้แกงใคร 

 

หมอมิ้ง เปิดเงื่อนไข ปรับครม.เศรษฐา 314 เสียงดัง-แน่นเหนียว

 

“การปรับครม.ถามว่า ทำเพื่ออะไร ถ้าเป็นประโยชน์กับประชาชน สมมุติเรามีคนที่เหมาะจะเข้ามา หรือปรับการทำงานให้คล่องขึ้น ก็จะทำในเงื่อนไขนั้น การปรับต้องเพื่อเสถียรภาพเพื่อประชาชน”นพ.พรหมมินทร์กล่าว

เมื่อถามว่า สิ่งที่รัฐบาลทำมาทั้งหมด ได้ประเมินกระแสนายทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ที่จะทำให้รัฐบาลสะดุดเพราะถูกกล่าวหาว่า เป็นนักโทษเทวดาหรือไม่ นพ.พรหมมินทร์กล่าวว่า การทำทุกอย่างของเราอยู่ในกรอบของกฎหมาย รัฐบาลมีหน้าที่ทำประโยชน์ให้ประชาชน เรื่องที่เกิดขึ้นมาและมีข้อวิจารณ์ต่าง ๆ ถ้าอยู่ในกรอบของกฎหมายก็ต้องเป็นเรื่องเฉพาะไป 

เมื่อถามว่า เรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ถูกมองว่ากำลังถูกสั่นคลอน จากกกรณีนายทักษิณ จะเป็นปัญหากับรัฐบาลหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ถ้าเราอยู่ในกรอบกฎหมาย ทุกคนมีสิทธิแบบเดียวกัน ตนว่ามันอยู่ในกรอบกฎหมายหรือไม่ ผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องพิจารณากันตรงนั้น ในหลักสำคัญคือ หลักนิติธรรมที่เกิดขึ้นกับประเทศทั้งประเทศ และไม่ควรจะเกิด 2 มาตราฐาน ฉะนั้นอะไรที่ปฏิบัติได้กับทุกคนก็เป็นอย่างนั้น 

หมอมิ้ง เปิดเงื่อนไข ปรับครม.เศรษฐา 314 เสียงดัง-แน่นเหนียว

เมื่อถามว่า ตอนนี้รัฐบาลทำงานเยอะ แต่กระแสของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลยังดีอยู่ นพ.พรหมมินทร์กล่าวว่า ผลงานของรัฐบาล คือ ได้พูดกับได้ทำ คนละเรื่องกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ สมรสเท่าเทียม ฝุ่น PM 2.5 เรายึดมั่นในสิ่งที่เราหาเสียงไว้และดำเนินการ ไปทำให้เป็นจริง เราไม่ได้เอาไว้ใช้หาเสียง ถึงเวลาที่เราต้องขอโอกาสเข้ามาทำงานให้ประชาชนจริง ๆ 

เมื่อถามว่า หากมีการทำโพล กระแสรัฐบาลจะดีขึ้นกว่าพรรคก้าวไกลหรือไม่ นพ.พรหมมินทร์กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดอย่างนั้น เราตั้งใจทำประโยชน์ สิ่งที่สำคัญถ้าประชาชนประสงค์ เราไม่ได้เลือกว่า จะต้องมี สส.เรา แต่เป็นเพราะคนไทยที่ในอดีตมีปัญหาอยู่ในเขตชายแดน จะแก้ปัญหาด้วยวิธีการในการพัฒนาอย่างไร 

ส่วนความนิยม ความป็อบปูลาร์ของรัฐบาลจะใช้อะไรดึงขึ้นมา นพ.พรหมมินทร์กล่าวว่า คือ "ความจริงใจและผลงานการปฏิบัติ เป็นรัฐบาลของประชาชน"