วันนี้( 25 พ.ย. 67) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยสำเนาสัญญาจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรีระหว่าง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กับ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนเกียรตินาคินภัทร จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการหุ้นแทนในระหว่างดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน
โดยหุ้นที่ นายพิพัฒน์ ได้ให้บริษัทเข้าจัดการแทน มีทั้งสิ้น 11 บริษัทประกอบด้วย
1.บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน ) (AMA) 15,000,000 หุ้น
2.บริษัท พี แอนด์ ซี ปิโตรเลียม จำกัด 91,540 หุ้น
3.บริษัท เคทีพี ปิโตรเลียม จำกัด 27,468 หุ้น
4.บริษัท ซีเคไฟว์ เทรดดิ้ง จำกัด 21 หุ้น
5.บริษัท เอ็น แอนด์ ซี แฮปปี้ ฟู้ด จำกัด 3,662 หุ้น
6.บริษัท พีแอนด์ ซี กรุ๊ป จำกัด 336,000 หุ้น
7.บริษัท จิตแก้ว จำกัด 2,400 หุ้น
8.บริษัท เอชเซลเล่ โลจิสติค จำกัด 9,500 หุ้น
9.บริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด 31,000,000 หุ้น
10.บริษัท รัชกิจคอร์โปเรชั่น จำกัด 850,000 หุ้น
และ 11.บริษัท อาร์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด 336,000 หุ้น
โดยสัญญาจัดการหุ้นฉบับนี้จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2566 ระบุตัวเลขค่าธรรมเนียมการจัดการหลักทรัพย์ของรัฐมนตรีในอัตราร้อยละ 0.05 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด หักด้วยมูลค่าหนี้สินทั้งหมด (ไม่รวมค่าธรรมเนียมการจัดการหลักทรัพย์และค่าธรรมเนียมในการรับฝากหลักทรัพย์ของรัฐมนตรี ณ วันที่คำนวณ) โดยจะทำการคำนวณเป็นรายเดือนและเรียกเก็บเป็นรายเดือน
และหากค่าธรรมเนียมการจัดการหลักทรัพย์ของรัฐมนตรี ที่คำนวณและเรียกเก็บมีจำนวนน้อยกว่า 500,000 บาทต่อปี (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) รัฐมนตรีตกลงจะชำระค่าธรรมเนียมการจัดการหลักทรัพย์ของรัฐมนตรีในอัตราขั้นต่ำจำนวน 500,000 บาทต่อปี(ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม - ค่าธรรมเนียมการจัดการขั้นต่ำ) โดยบริษัทจัดการจะพิจารณาเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการขั้นต่ำให้ครบถ้วนในเดือนธันวาคมของทุกปี
และยังระบุค่าธรรมเนียมในการรับฝากหลักทรัพย์ ที่จัดการตามสัญญาฉบับนี้ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ว่าเรียกเก็บในอัตราร้อยละ 0.005 ต่อปีของมูลค่าหลักทรัพย์ทั้งหมด หักด้วยมูลค่าหนี้สินทั้งหมด(ไม่รวมค่าธรรมเนียมการจัดการหลักทรัพย์และค่าธรรมเนียมในการรับฝากหลักทรัพย์ของรัฐมนตรี ณ วันที่คำนวณ)
ส่วนค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เก็บตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้มีหมายเหตุระบุว่า ค่าธรรมเนียมในการรับฝากหลักทรัพย์คำนวณเป็นรายเดือนและเรียกเก็บเป็นรายเดือน
สำหรับการโอนหุ้นให้บริษัทจัดการฯดังกล่าวเป็นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ที่ กำหนดให้รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อไปตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด กรณีประสงค์รับประโยชน์ต่อไปให้แจ้ง ประธาน ป.ป.ช.ทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งและโอนหุ้นให้แก่นิติบุคคลซึ่งจัดการทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น
และพ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นส่วนของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 5 ประกอบมาตรา 10 กำหนดว่า กรณีที่รัฐมนตรีประสงค์จะได้รับประโยชน์จากหุ้นเกินกว่า 5 % ให้แจ้งประธาน ป.ป.ช.ทราบภายใน 30 วันและโอนหุ้นให้นิติบุคคลภายใน 90 วัน นับแต่วันที่แจ้งให้ประธาน ป.ป.ช.ทราบ