วันนี้ (3 มกราคม 2567) ที่รัฐสภา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลุกขึ้นชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ว่า มีเพื่อนสมาชิกได้อภิปรายถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ข้อมูลไม่ถูกต้อง ถ้าไม่มาชี้แจงจะทำให้พี่น้องประชาชน และสื่อมวลชนเข้าใจผิดในตัวเลข มีการอภิปรายว่า ตนกับรัฐมนตรีคราวที่แล้ว มาจากพรรคเดียวกัน ทำให้เกรงใจนายทุน แก้ปัญหาแบบเดิม
“ขอเรียนว่า โครงสร้างพลังงานแบบปัจจุบัน ผมก็ไม่พอใจ แต่ไม่มีทางอื่น ที่จะต้องปรับตามโครงสร้างแบบปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผมเชื่อว่าประชาชนพึงพอใจในผลงานที่ทำมา คนอย่างผมไม่เคยเกรงใจใคร ถ้าหากทำไปแล้ว พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์ ประเทศชาติได้ประโยชน์ ผมไม่เคยเกรงใจใคร ถ้ามัวแต่เกรงใจใคร 3 เดือนที่ผ่านมา ผมคงทำในสิ่งที่ทำให้กับประเทศชาติ และประชาชนไม่ได้อย่างที่ปรากฏเหมือนอย่าง 3 เดือนที่ผ่านมา ขอทำความเข้าใจไว้ก่อน”นายพีระพันธุ์กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ประการที่ 2 เรื่องของกฟผ. ตัวเลขที่มีการอภิปรายฟังแล้วก็ตกใจ เพราะตัวเลขที่ตนได้รับจาก กฟผ. นำเข้าคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มกราคม คนละตัวเลขกัน ขณะนี้กระแสเงินสดของ กฟผ.ในปี 66 มีเกือบ 9 หมื่นล้านบาท และประมาณการใช้จ่ายของกฟผ. ที่มีการอภิปรายว่า ตั้งแต่ต้นปีเดือนมกราคม จะลงไปถึง 1 หมื่นกว่าล้าน ไม่เป็นความจริง เพราะกฟผ. ต้องรักษาระดับเงินสดไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาทเป็นมาตรฐาน ฉะนั้นตัวเลขที่บอกว่าลงไป หมื่นกว่าล้าน เป็นไปไม่ได้ และไม่มีทางให้เป็นแบบนั้น
นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ก่อนมาชี้แจง ตนได้สอบถามกฟผ. เพื่อความมั่นใจ ตนได้พูดกับรักษาการผู้ว่าการกฟผ. และรองผู้ว่าฯ ฝ่ายการเงิน ได้ยืนยันว่าตัวเลขที่รายงานครม. เมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา ถูกต้อง จึงไม่ทราบว่า ตัวเลขที่สมาชิกนำมาอภิปรายในสภาฯ เอามาจากไหน ขอให้เข้าใจว่า กระแสเงินสดวันนี้ของกฟผ. มีประมาณ 8 -9 หมื่นล้านบาท
นายพีระพันธุ์กล่าวว่า สำหรับ หนี้ของการกฟผ. ที่เป็นหนี้ปตท. 3 หมื่นกว่าล้านบาทขณะนี้ไม่มี ใช้หนี้หมดแล้ว วันนี้ปตท.ได้รับการชำระหนี้จาก กฟผ.หมดแล้ว ไม่มีการติดหนี้กัน และขอถือโอกาสขอบคุณทุกภาคส่วน ที่เข้ามาร่วมกับรัฐบาลชุดนี้ ในการลดค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ตนมั่นใจว่า พี่น้องประชาชนพอใจกับสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำให้ ในการลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครต้องเดือดร้อน หรือเดือดร้อน แต่ทุกคนพร้อมใจกันช่วย เพื่อลดภาระตรงนี้ให้กับประชาชน