ถ่ายทอดสด ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดี "พิธา-ก้าวไกล" แก้ ม.112 

30 ม.ค. 2567 | 17:29 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ม.ค. 2567 | 06:39 น.

ศาลรธน.นัดอ่านคำวินิจฉัยคดี "พิธา-ก้าวไกล" กรณีหาเสียงเลือกตั้งเสนอแก้ ม.112 ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯ ตามรัฐธรรมนูญ ม.49 วรรคหนึ่งหรือไม่ พร้อมเกาะติดรับฟังผ่านช่องยูทูบของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ตั้งแต่เวลา 14.00 น. 

ในวันนี้ 31 มกราคม 2567 คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ ลงมติ และออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระ (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 49 ว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขณะเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1)

และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่

โดยศาลจะเริ่มประชุมในเวลา 09.30 น. แถลงด้วยวาจา ลงมติ และจัดทำคำวินิจฉัย ก่อนออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง ในเวลา 14.00 น.ตามที่นัดหมาย

 

 

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ศาลได้ไต่สวนพยานฝั่งผู้ถูกร้อง 2 คน คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายชัยธวัช ตุลาธน  หัวหน้าพรรคก้าวไกล 

สำหรับคดีนี้ประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัย คือ การเสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ และศาลจะต้องสั่งให้หยุดการกระทำดังกล่าวหรือไม่

หากศาลฯ เห็นว่า เป็นการกระทำที่ไม่เข้าข่ายใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองฯ ก็จะสั่งยกคำร้อง แต่หากศาลฯ เห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งก็จะสั่งให้เลิกการกระทำดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสอง 

ในวันนี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยังคงคุมเข้มมาตรการความปลอดภัยโดยรอบอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตามประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง อาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ฉบับลงวันที่ 12 ม.ค. 67

โดยห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มาปฏิบัติงาน หรือมาติดต่อราชการ และต้องผ่านการตรวจตัวบุคคลและสิ่งของที่นำมา ตามวิธีการของเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย 

สำหรับผู้ที่จะเข้ารับฟังการอ่านคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นโดยจะต้องแลกบัตร ฝากสิ่งของ อาทิ กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมทั้งต้องผ่านจุดตรวจค้นอาวุธ ซึ่งจะอยู่บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นห้องพิจารณาคดี  

สำหรับสื่อมวลชนและประชาชนที่เดินทางมารับฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองนั้น ทางสำนักงานศาลฯ อำนวยความสะดวกให้โดยติดตั้งจอทีวีพร้อมลำโพงไว้เพื่อถ่ายทอดสดการอ่านคำวินิจฉัย รวม 2 จุดใหญ่ คือ ที่บริเวณโถงกลาง ชั้น 2 และ บริเวณเชิงบันไดด้านนอกอาคาร ฝั่งทิศเหนือของ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ทั้งยังสามารถติดตามผลการอ่านคำวินิจฉัยผ่านช่องทางยูทูบของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีรยุทธ ผู้ร้อง จะเดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองโดยจะถึงที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ เวลาประมาณ 13.30 น. ขณะที่ทางพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะผู้ถูกร้อง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แจ้งจะไม่ไปรับฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากต้องปฎิบัติหน้าที่ที่สภาผู้แทนราษฎร 

อย่างไรก็ดี สำนักงานศาลฯ ได้ประสานกับทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาดูแลความปลอดภัยโดยรอบอาคารสถานที่เช่นเดียวกับวันอ่านคำวินิจฉัยคดีของนายพิธา ถือหุ้นสื่อ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน ) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตามสถานการณ์ เฝ้าติดตามกรณีมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาการจัดกำลังดูแลความปลอดภัยจะใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ทุ่งสองห้อง เป็นกำลังหลักร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ