ระทึก ศาลรธน.เริ่มลงมติ คดี“พิธา-ก้าวไกล”แก้ ม.112 อ่านคำวินิจฉัยบ่ายสอง

31 ม.ค. 2567 | 04:17 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ม.ค. 2567 | 06:03 น.

ระทึก! ศาลรธน.เริ่มประชุมลงมติคดี “พิธา-ก้าวไกล” เสนอแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ หรือไม่ ก่อนออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยเวลา 14.00 น. ติดตามฟังการอ่านคำวินิจฉัยได้ทางช่อง“ยูทูป”สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

วันนี้ (31 ม.ค. 67) เวลา 09.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญได้เริ่มประชุมปรึกษาหารือ ลงมติและะจัดทำคำวินิจฉัยในคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระ(ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 49 ว่า

การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขณะเป็น หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่

 ก่อนออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในเวลา 14.00 น. ตามที่นัดหมาย 

 

โดยประชาชนทั่วไป สามารถติดตามผลการอ่านคำวินิจฉัยผ่านช่องทางยูทูปของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ https://www.youtube.com/watch?v=UJBZrBCA6H4 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายพิธา แจ้งว่าติดภารกิจประชุมสภาผู้แทนราษฎรจึงจะไม่เดินทางมารับฟังการอ่านคำวินิจฉัยด้วยตนเอง ทำให้บรรยากาศโดยรอบอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

และภายในโถงอาคาร A หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ไม่คึกคัก เมื่อเทียบกับครั้งนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีสถานะส.ส. ของนายพิธา ที่มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศมาเฝ้าติดตามทำข่าว และกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลมารอให้กำลังใจนายพิธา 

โดยพบว่า ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มมวลชนเดินทางมาชุมนุม แต่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญก็ยังคงคุมเข้มตามประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องอาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ฉบับลงวันที่ 12 ม.ค.67

กำหนดห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มาปฏิบัติงาน หรือมาติดต่อราชการ และต้องผ่านการตรวจตัวบุคคลและสิ่งของที่นำมา ตามวิธีการของเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย 

ขณะที่บุุคคลที่จะเข้ารับฟังการอ่านคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยจะต้องแลกบัตร ฝากสิ่งของ อาทิ กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมทั้งต้องผ่านจุดตรวจค้นอาวุธ ซึ่งจะอยู่บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นห้องพิจารณาคดี  

และสำนักงานศาลฯ ได้อำนวยความสะดวกให้สื่อมวลชนและประชาชนที่เดินทางมารับฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง ด้วยการติดตั้งจอทีวีพร้อมลำโพงไว้เพื่อถ่ายทอดการอ่านคำวินิจฉัย จำนวน 2 จุดใหญ่ คือ ที่บริเวณโถงกลาง ชั้น 2 และบริเวณเชิงบันไดด้านนอกอาคาร ฝั่งทิศเหนือของ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A)  

ส่วนประชาชนทั่วไป สามารถติดตามผลการอ่านคำวินิจฉัยผ่านช่องทางยูทูปของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่เวลา 14.00 น.