ศาลออกหมายจับ “ตะวัน-แฟรงค์” ม. 116 - พ.ร.บ.คอมฯ ปมขวางขบวนเสด็จ

วันที่ 13 ก.พ.67 เวลา 14.50น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา มีรายงานว่าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ออกหมายจับนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" ใน 2 ข้อหา คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมาตรา 116 ยุยง ปลุกปั่น  ส่วนนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ "แฟรงค์" โดน 4 ข้อหา คือ มาตรา 116 / พ.ร.บ.คอมฯ / บีบแตรฯ ผิด พ.ร.บ.จราจร และข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานฯ

ก่อนหน้านี้ มีการสัมภาษณ์ พลตำรวจตรีอัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 หลังไต่สวนคำร้องขอหมายจับ นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ "แฟรงค์"  ระบุว่า พนักงานสืบสวนสอบสวนรวบรวมหลักฐานต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรา 116 ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย กระทั่งชุดทำคดี มั่นใจในพยานหลักฐาน และเพียงพอที่จะขอศาลออกหมายจับได้  โดยผู้พิพากษามีกระบวนการไต่สวนเข้มข้นนานถึง 2 ชั่วโมง 

กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยเฉพาะผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เน้นย้ำให้มีความรอบคอบในการสืบสวนหาข้อมูล ร่วมกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบังคับการตำรวจการตำรวจนครบาล 1 ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง ทั้งทางอิเล็กทรอนิกส์และโซเชียลมีเดียต่างๆ กล้องวงจรปิด รวมถึงเอกสารที่นำมาเสนอต่อศาลกว่า 100 แผ่น

ซึ่งศาลฯได้ซักถามที่มาที่ไปอย่างละเอียด โดยเฉพาะ ความผิด ตามมาตรา 116 ที่เป็นข้อหาจะต้องนำสืบให้เข้าองค์ประกอบความผิด รวมถึง พรบ.คอมฯ เกี่ยวกับความมั่นคงด้วย

สำหรับพฤติการณ์ของที่เกี่ยวข้องมาตรา 116 ผู้ต้องหาเข้าข่ายอย่างไรนั้น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ระบุว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของศาลในกระบวนการออกหมายจับ และให้รอฟังผลพิจารณา

ส่วนประเด็นผู้ต้องหา มารอในพื้นที่ศาล ตำรวจหรือเจ้าพนักงานสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องแล้วแต่ทางเจ้าพนักงาน ซึ่งได้มอบหมายให้ชุดผู้กำกับการสืบสวนนครบาล 1 ดำเนินการต่อ โดยจะต้องใช้เวลา แต่ตำรวจก็มั่นใจในพยานหลักฐาน เพราะศาลไต่สวนนานถึง 2 ชั่วโมง โดยมีพนักงานสอบสวนนำสืบถึง 6 คน

ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการยัดข้อหาเพราะได้ใช้เวลารวบรวมหลักฐานนานประมาณ7วัน ซึ่งเป็นพยานหลักฐานจากสื่อโซเชียลมีเดีย