ครั้งแรกของไทย "เลือกตั้งผ่านบล็อกเชน"โดยสภาเด็กและเยาวชนเขตกทม.

17 ก.พ. 2567 | 12:31 น.
อัพเดตล่าสุด :17 ก.พ. 2567 | 12:33 น.

"เลือกตั้งผ่านบล็อกเชน" ครั้งแรกของไทยโดยสภาเด็กและเยาวชนเขต กรุงเทพมหานคร โปร่งใส รู้ผลทันทีหลังปิดหีบ ประหยัดงบ 30 เท่า

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2567 ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงผลการเลือกตั้งสภาเด็กและเยาวชนเขต อย่างไม่เป็นทางการ หลังปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 17.00 น. จากการเลือกตั้งผ่าน D-vote ในระบบ Blockchain ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งสามารถรู้ผลทันทีหลังปิดหีบ ในการเลือกตั้งฯ มีผู้ยืนยันตนทั้งสิ้น 10,301 คน และมาใช้สิทธิทั้งหมด 6,973 คน

 

ครั้งแรกของไทย \"เลือกตั้งผ่านบล็อกเชน\"โดยสภาเด็กและเยาวชนเขตกทม.

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งผ่านระบบออนไลน์โดยไม่ต้องเข้าคูหาเลือกตั้ง โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่สามารถประมวลผลได้รวดเร็วหลังจากปิดหีบเลือกตั้ง โดยไม่ต้องมีกระบวนการรับหีบ เปิดหีบ นับบัตรเลือกตั้ง และไม่ต้องมีการขนส่งบัตรเลือกตั้งไปนับ เป็นการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการเลือกตั้งให้โปร่งใส เป็นก้าวแรกของการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาการเลือกตั้งซึ่งต้องนำไปพัฒนาต่อไปให้ต่อเนื่อง และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ชนะการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการจากทุกเขต

ครั้งแรกของไทย \"เลือกตั้งผ่านบล็อกเชน\"โดยสภาเด็กและเยาวชนเขตกทม.

ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ หรือ “ดร.เรือบิน” ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ดีโหวต จำกัด กล่าวว่า ทุกวันนี้การทำงานด้านนโยบาย โดยการนำเสียงของประชาชนมาแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นที่มาของการนำระบบ Blockchain มาใช้ ซึ่งแรกเริ่มมาจากการจัดทำการสำรวจความคิดเห็นและโพลเพื่อรับทราบปัญหาจากประชาชนมาประกอบการทำนโยบายของหน่วยงานต่าง ๆ  จนนำมาสู่การใช้ในการเลือกตั้ง ต้องขอขอบคุณกรุงเทพมหานครที่ไว้วางใจให้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากระบบ Blockchain เป็นที่พูดถึงกันมาอย่างยาวนาน แต่ยังไม่ถูกนำมาใช้ในการเลือกตั้งจริง ซึ่งวันนี้พิสูจน์แล้วว่าระบบดังกล่าวนำมาซึ่งความโปร่งใส เป็นส่วนตัวประสิทธิภาพสูง และรวดเร็วในการเลือกตั้ง

ครั้งแรกของไทย \"เลือกตั้งผ่านบล็อกเชน\"โดยสภาเด็กและเยาวชนเขตกทม.

สำหรับด้านความโปร่งใส การเลือกตั้งครั้งนี้ใช้ระบบยืนยันตัวตนผ่าน ThaID ของกรมการปกครอง ควบคู่กับการ e-KYC โดย D-vote และสยามราชธานี (SO) ซึ่งทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ต่างจากการใช้คนประจำหน่วยที่อาจมีความเห็นหลากหลายมาตรวจสอบรูปจากบัตรประชาชน และเมื่อมีการกดลงคะแนน ระบบจะบันทึกผลลง Blockchain ผ่าน JIB Chain ที่มีกว่า 25,000 โหนด และ Kub Chain ที่ถือโหนดโดยองค์กรชั้นนำหลายสิบแห่ง ซึ่งทำให้การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคะแนนในภายหลังไม่สามารถทำได้ โดยคะแนนจะถูกบันทึกโดยการเข้ารหัส เพื่อให้ไม่สามารถอ่านผลคะแนนได้ก่อนปิดหีบ แต่จะสามารถรู้จำนวนผู้มาใช้สิทธิได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งหลังปิดหีบกุญแจไขรหัสจะถูกเปิดเผยเพื่อให้สามารถรวมและตรวจสอบผลได้ทันที่
 

ด้านความเป็นส่วนตัว การลงคะแนนจะเป็นการส่งข้อมูลทางเดียวที่ไม่สามารถย้อนกลับไปหาได้ว่าผู้ลงคะแนนนี้เป็นใคร แต่ตัวผู้ลงคะแนนจะสามารถรู้ได้ว่าคะแนนของตนได้ถูกส่งไปรวมในผลเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว

ในด้านประสิทธิภาพ ผลการเลือกตั้งวันนี้ ทำให้เห็นว่าระบบ Blockchain สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 5-14 วินาที และสามารถรายงานผลได้ภายใน 12 นาที รวมระยะเวลาที่ใช้คนในการตรวจทานและส่งรายงานผลทั้ง 30 เขตเลือกตั้ง และต้นทุนที่ใช้ในการจัดการลงคะแนนอยู่ที่ 1-2 บาท ต่อโหวต

ครั้งแรกของไทย \"เลือกตั้งผ่านบล็อกเชน\"โดยสภาเด็กและเยาวชนเขตกทม.

ซึ่งหากถูกนำไปปรับใช้กับการเลือกตั้งหรือทำประชามติในระดับประเทศ คาดว่าจะช่วยร่นระยะเวลาในการรายงานผลคะแนนให้อยู่ภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังปิดหีบ ประหยัดงบประมาณในส่วนของการจัดการเลือกตั้ง ที่ไม่รวมงบประมาณประชาสัมพันธ์ ได้ 20-30 เท่า และลดความผิดพลาดในการนับคะแนนได้แทบทั้งหมด ซึ่งเป็นความมุ่งหวังของการเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อให้ได้บทเรียนที่นำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในการเลือกตั้งในระดับใหญ่ยิ่งขึ้นต่อไป
 
ทั้งนี้ การเลือกตั้งประธานสภาเด็กและเยาวชน เป็นโอกาสสำคัญของเด็กและเยาวชนในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง สะท้อนปัญหา เสนอแนะแนวทาง และร่วมกำหนดนโยบาย ที่ส่งผลต่อเด็กและเยาวชนในกรุงเทพมหานคร โดยกรุงเทพมหานคร เปิดรับสมัครเด็กและเยาวชนมาเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชน ระดับเขต เพื่อเป็นส่วนร่วมในการพัฒนา แก้ไขปัญหา และร่วมกำหนดนโยบายด้านเด็กและเยาวชน ของกรุงเทพมหานคร เป็นการนำร่อง 30 เขต ให้เด็กและเยาวชนที่สนใจสมัครเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนเขต สมัครเมื่อ 25 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา จากนั้นจะเปิดให้ลงทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งผ่านระบบออนไลน์เพื่อยืนยันตนระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ. 67 และจัดการเลือกตั้งออนไลน์พร้อมกันทั้ง 30 เขต ในวันที่ 16 ก.พ. 67 โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี