เปิดข้อกล่าวหาฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปราย“รัฐบาลเศรษฐา"แบบไม่ลงมติ

13 มี.ค. 2567 | 08:28 น.
อัพเดตล่าสุด :13 มี.ค. 2567 | 09:57 น.

ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป “รัฐบาลเศรษฐา”แบบไม่ลงมติ ชำแหละพฤติกรรมทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ ปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเอารัดเอาเปรียบประชาชน ระบบราชการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ เลือกปฏิบัติทำลายหลักความเสมอภาค

วันนี้ (13 มี.ค. 67) ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วยตัวแทน พรรคประชาธิปัตย์, พรรคใหม่, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ร่วมกันยื่นญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร 

นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 5 พรรคได้ยื่นญัตติขออภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ซึ่งมีเนื้อหาญัตติ ดังนี้ คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว แต่มิได้ดำเนินการ หรือปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน

ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของตนเองที่ได้ให้ไว้ต่อรัฐสภา ขาดประสิทธิภาพ หรือความชัดเจนแน่นอน ยังไม่ได้มีการขับเคลื่อนนโยบาย หรือ แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริง กับการดำเนินการของรัฐบาลตามนโยบายเร่งด่วนที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา

ไม่ว่าจะการแก้ปัญหาหนี้สินในภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเห็นที่ต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศล้วนขาดยุทธศาสตร์ และการปฎิบัติที่ตรงเป้าหมาย

 นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ยังมีพฤติกรรมที่ทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเอารัดเอาเปรียบประชาชน ระบบราชการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือเกิดการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย แทนที่จะเร่งฟื้นฟูหลักนิติรัฐนิติธรรม กลับเกิดการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ทำลายหลักความเสมอภาค เท่าเทียมทางกฎหมาย

การไม่จริงใจต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การลดความเหลื่อมล้ำ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาการศึกษา

และปัญหาสิ่งแวดล้อม การดำเนินการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมีความผิดพลาด ไร้ความสามารถในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์ การดำเนินนโยบายต่างประเทศ ยังไม่สามารถฟื้นฟูบทบาทสำคัญของประเทศไทยในเวทีโลกได้ 

ทั้งนี้ หากปล่อยปละละเลยให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดิน อย่างไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ไร้เป้าหมาย ไร้จริยธรรม และ ไร้วุฒิภาวะต่อไป จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตามที่พี่น้องประชาชนคาดหวังจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา 

จากสถานการณ์ที่กล่าวถึงข้างต้น จึงจำเป็นที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะที่เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย จะได้นำเสนอสภาพปัญหา ข้อเสนอแนะ และซักถามข้อเท็จจริงต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย และแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน

ดังนั้น ในฐานะ ส.ส.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริง และเสนอแนะปัญหา ต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152

สำหรับความคาดหวังต่อรัฐบาลในการอภิปรายครั้งนี้ นายชัยธวัช กล่าวว่า หวังว่าจะเป็นการตรวจการบ้านครั้งสำคัญ หลังจากที่ประชาชนคาดหวังมากว่าเมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ หลังรัฐบาลจากการยึดอำนาจพ้นจากตำแหน่งแล้ว เมื่อเราเห็นว่า 6 เดือนที่ผ่านมา นโยบายของรัฐบาลไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน จึงหวังว่าการอภิปรายจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อไม่ให้ประเทศเสียโอกาส

ส่วนจะรวมประเด็นของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า “เดี๋ยวรอฟัง”

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องดังกล่าวแล้ว จะส่งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบรายชื่อและญัตติต่อไป ซึ่งคงไม่มีอะไร หลังจากนี้ จะจัดให้มีการประชุมระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน และตัวแทนรัฐบาล เพื่อกำหนดวันที่ชัดเจนและเวลาที่อภิปราย ซึ่งการดำเนินการจะมีเวลากำกับ คาดว่าคงดำเนินการเสร็จสิ้นภายในต้นเดือน เม.ย.