ราชกิจจาฯ ประกาศแบ่งส่วนราชการ สตช. ทั่วประเทศ มี 1,484 สถานี

23 มี.ค. 2567 | 09:58 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มี.ค. 2567 | 10:09 น.

ราชกิจจาฯ ประกาศแบ่งส่วนราชการใน สตช. ระดับกองบังคับการ หรือระดับต่ำลงไป กำหนดให้ “พื้นที่นครบาล” มี 9 กองบังคับการ 88 สถานี ตำรวจภูธร 9 ภาค มี 1,396 สถานี รวมทั่วประเทศ 1,484 สถานี มีผล 22 มี.ค. 2567 เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการหรือหน่วยงานอย่างอื่นหรือในระดับต่ำลงไป ในสํานักงานตํารวจแห่งชาติ (สตช.) พ.ศ. 2567

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ออกกฎกระทรวงไว้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ไว้ ณ วันที่ 22 มี.ค. 2567 

โดยในกฎกระทรวงฉบับนี้ กำหนดให้ยกเลิกกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการใน สตช. จำนวน 19 ฉบับ และกำหนดให้แบ่งส่วนราชการใหม่

ขณะที่ส่วนราชการ สตช. ในส่วน “พื้นที่นครบาล”  กำหนดให้มี 9 กองบังคับการ มีสถานีตำรวจทั้งสิ้น 88 สถานี

 

สำหรับสถานีตำรวจในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ มีตำภูธรภาค 9 ภาค มีสถานีตำรวจ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,396 สถานี

                   ราชกิจจาฯ ประกาศแบ่งส่วนราชการ สตช. ทั่วประเทศ มี 1,484 สถานี

ทั้งนี้เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 11 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 กําหนดให้การแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการ หรือ ส่วนราชการหรือหน่วยงานอย่างอื่น หรือในระดับต่ำลงไป ให้ออกเป็นกฎกระทรวง และให้กําหนดหน้าที่และอํานาจให้ชัดเจนไว้ในกฎกระทรวงด้วย 

ประกอบกับมาตรา 12 (2) และ (3) กําหนดให้การแบ่งส่วนราชการดังกล่าว อย่างน้อยต้องมีกองบังคับการตํารวจนครบาล และตํารวจภูธรจังหวัด ซึ่งเป็นส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น ที่มีฐานะเทียบเท่ากองบังคับการ และสถานีตํารวจ 

สมควรแบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการหรือหน่วยงานอย่างอื่น หรือในระดับต่ำลงไป และระบุหน้าที่และอํานาจของแต่ละส่วนราชการให้เหมาะสมกับภารกิจ จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

คลิกดูเพิ่มเติมจากราชกิจจานุเบกษา