บ่ายวันนี้ (1 เม.ย. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ กับข้าราชการตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช สอท. , รอง ผบช.สอท. , ผบก.สอท. เข้าร่วมประชุมรับมอบนโยบาย ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 2 บช.สอท. เมืองทองธานี
นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า คิดว่าถึงเวลาที่ตนต้องมาที่นี่ เชื่อว่าเป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้ว ว่า สอท.เป็นที่ถูกสังคมเพ่งเล็งอยู่ ต้องยอมรับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการย้ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้ง 2 ท่าน เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปได้อย่างถูกต้อง ไม่มีการก้าวก่าย ก้าวล่วง และต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
“ผมเชื่อว่ารักษาการ ผบ.ตร. ก็ทราบถึงปัญหาดี ว่า เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ถึงเวลาแล้วที่ต้องจัดการให้หมดสิ้นไป ทั้งนี้ ตามที่มีกระแสข่าวว่า พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการ สอท. เป็นเด็กของคนนั้นคนนี้ ผมเองก็คิดว่าไม่ยุติธรรมกับ พล.ต.ท.วรวัฒน์ แต่ก็ไม่มีอะไรตอบสังคมได้ดีไปกว่าการปฏิบัติตัว รวมไปถึงผู้บัญชาการหน่วยงานต่างๆ และเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องพิสูจน์ตัวเอง ว่าจริงๆ แล้วใครเป็นเจ้านายโดยแท้จริง ซึ่งไม่ใช่นายกฯ แต่เป็นประชาชน”
นายเศรษฐา กล่าวว่า มาวันนี้เพื่อต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาอันใกล้ เกิดผลงานชัดเจนโดยเร็ว ไม่ใช่การจับกุมเพียงอาชญากรรายเล็ก แต่ต้องเป็นรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง หวยออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันเถื่อน เฟคนิวส์ ที่ไม่ใช่ปัญหาของประชาชนที่ถูกหลอกลวง แต่เป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศด้วย
“ผลงานของตำรวจไซเบอร์ต้องเป็นที่ประจักษ์ภายใน 30 วัน มิฉะนั้นมีปัญหาแน่นอน ผมต้องการผลงานโดยเร็ว ต้องการดำเนินการกับรายใหญ่ ไม่ใช่เพียงแค่รายเล็ก เพราะผมเชื่อว่าทุกคนในที่นี้รู้ว่า หน่วยงานของท่านใครที่ทำผิดกฎหมายบ้าง” นายกรัฐมนตรี ระบุ