วันนี้ (12 เมษายน 2567) นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวการปรับครม.เศรษฐา1 ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่มีการหารือในเรื่องนี้ โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค เคยแจ้งให้ทุกคนทราบว่า ถ้าจะมีการปรับครม. นายกรัฐมนตรีคงจะหารือระดับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จากนั้นหัวหน้าพรรคจะมาหารือกับสมาชิกพรรค
“ข่าวการปรับครม.มีมากว่า 1 เดือนแล้ว แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการส่งสัญญาณจากนายกฯ” นายวิทยา ระบุ
ทั้งนี้ยอมรับว่า หัวหน้าพรรคได้พูดตั้งแต่แรกว่า การเป็นรัฐมนตรีคือ พรรคส่งไปทำงานทุกคนต้องทำงานขยันอย่างจริงจังเวลานี้รัฐมนตรีเพิ่งทำงานมาแค่ 4-5 เดือน ทุกคนขยันขันแข็งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ในส่วนของพรรคจึงยังคิดว่าไม่จำเป็นต้องปรับครม. แต่ข่าวปรับครมมีการปล่อยมาเป็นระยะ แม้กระทั่งพรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลก็ยังถูกปล่อยว่าจะดึงเข้าร่วมรัฐบาล ข่าวปล่อยจึงออกมาได้ทุกวัน วิเคราะห์การเมืองกันได้ทุกวันว่าคนนั้นจะเข้าคนนี้จะออก
นายวิทยา กล่าวว่า ข้อเท็จจริงไม่ใช่เรื่องง่ายจะวิเคราะห์ให้แม่น เพราะการปรับครม.ต้องตัดสินใจโดยนายกฯ ว่าจำเป็นต้องปรับหรือไม่ ถ้าปรับต้องส่งสัญญาณให้ผู้พรรคร่วมรัฐบาลรู้ว่า มีวัตถุประสงค์ในการปรับเพื่ออะไร แต่ละพรรคจะได้กลับไปพิจารณา แต่ในชั้นนี้ยังไม่มีการยืนยัน เป็นแค่ข่าวที่มีออกทางสื่อ ส่วนจะจริงไม่จริงต้องรอดูสัญญาณจะส่งมาเมื่อใดอีกครั้ง
รองหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวว่า ผลงานรัฐมนตรีของพรรค รัฐมนตรีว่าการมีผลงานชัดเจนแตะต้องได้ ส่วนรัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ก็พยายามกระตือรือร้นลงพื้นที่ทำงานเสนอ โครงการที่แก้ปัญหาความยากจนของประชาชน
ส่วนกระทรวงการคลังเป็นความตั้งใจในการทำงาน รัฐมนตรีของพรรคไม่เคยเกิดความเสียหายในรัฐบาล จึงเน้นในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต รัฐมนตรีของพรรคทั้ง 4 คน ยังมีภาพความซื่อสัตย์สุจริตเป็นหลักประกันในระบอบประชาธิปไตยได้
“คนอยากเป็นรัฐมนตรีมีเป็นธรรมดา ต้องมีการตั้งก๊วนมานินทากัน พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีโควตารัฐมนตรีมาก การตั้งรัฐมนตรียังมีผู้ใหญ่ในพรรคอีกหลายคนที่เคยเป็นรัฐมนตรีมีความสามารถก็อาจคิดอยากจะกลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกรอบ แต่อำนาจนี้อยู่ที่นายกฯ ถ้าไม่เริ่มจากนายกฯ การปรับครม.คงไม่เกิด ต้องดูสัญญาณที่ชัดเจนจากนายกฯ ก่อนจะส่งมายังพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งนี้เป็นประเพณีปฏิบัติทางการเมือง ไม่ใช่ว่าพรรคใดละเล่อทะล่าอยากจะขอปรับครม.เอง” รองหัวหน้าพรรค รทสช. ระบุ
ทั้งนี้ยังเห็นด้วยว่าหลักของความเป็นรัฐมนตรีที่ต้องระวังคือความซื่อสัตย์สุจริต การอภิปรายของฝ่ายค้านที่ผ่านมายังไม่ได้พุ่งเป้าในเรื่องนี้ 4 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่มีปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน จึงยังไม่ต้องปรับรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ยังให้โอกาสได้ทำงานได้ต่อ รัฐมนตรีหลายคนมีผลงานดีเด่น ต้องสงวนไว้ให้ทำงานต่อไป