มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี (ปรับ ครม.) โดยการปรับจะเกิดขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) มีการผ่าน ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วาระแรก (เปิดสภาวิสามัญ) ระหว่างวันที่ 5-6 มิ.ย. 2567
ทั้งนี้มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการปรับ ครม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง จะสละเก้าอี้ รมว.คลัง โดยมีชื่อ นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ เข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง แทน
ขณะที่ นายเศรษฐา จะโยกไปนั่งควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม อีก 1 ตำแหน่ง ทำให้ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม อาจต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีไป เนื่องจากพรรคเพื่อไทยต้องการให้ นายสุทิน กลับไปช่วยขับเคลื่อนงานสภาฯ
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทย การปรับ ครม. จะเป็นรูปแบบสลับกระทรวง โดย นางพวงเพชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา อาจจะต้องสลับตำแหน่งกัน
โดยเฉพาะ น.ส.สุดาวรรณ มีปัญหาการทำงานในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งที่พรรคเพื่อไทยต้องการใช้ขับเคลื่อนงานซอฟต์พาวเวอร์ จึงจำเป็นต้องหาคนที่มีความเหมาะสมมาดำรงตำแหน่งดังกล่าว
นอกจากนั้น รัฐมนตรีส่วนของพรรคเพื่อไทย ที่อาจถูกปรับพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ปรากฎผลงาน ประกอบด้วย
นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย
นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์
นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ
ส่วนบุคคลที่มีรายชื่อและมีโอกาสดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประกอบด้วย
นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ของพรรค “พรรครวมไทยสร้างชาติ” เตรียมเสนอปรับ ครม.ในโควตาของพรรคเช่นกัน โดยมีความเป็นไปได้ที่จะปรับ นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง พ้นจากตำแหน่ง โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ กลุ่ม ส.ส.สุราษฎร์ธานี เป็นตัวเต็งเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า พรรคเพื่อไทย เตรียมทาบทามพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เข้าร่วมรัฐบาล เพื่อเพิ่มเสถียรภาพรัฐบาลให้มีความแข็งเข้มขึ้น โดยจะหั่นโควตารัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย 1 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย 1 ตำแหน่ง มอบให้เป็นโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ 2 ตำแหน่ง เป็น รมต.ว่าการ 1 ตำแหน่ง และ รัฐมนตรีช่วย 1 ตำแหน่ง
สำหรับตัวเต็งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ มีชื่อ
นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นตัวเต็ง
สำหรับ “รัฐบาลเศรษฐา” ปัจจุบันมี ส.ส.รัฐบาล 315 เสียง จาก 11 พรรค ได้แก่ เพื่อไทย 141 เสียง, ภูมิใจไทย 71 เสียง, พลังประชารัฐ 40 เสียง, รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง, ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง ,ประชาชาติ 9 เสียง, ชาติพัฒนากล้า 3 เสียง, เพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง, เสรีรวมไทย 1 เสียง, พลังสังคมใหม่ 1 เสียง, ท้องที่ไทย 1 เสียง
ทั้งนี้ หากเพิ่ม ส.ส.ประชาธิปัตย์ เข้ามาอีก 21 เสียง จาก 25 เสียง ยกเว้น 4 เสียง นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และ นายสรรเพชร บุญญามณี ส.ส.สงขลา ที่ไม่สนับสนุนให้ร่วมรัฐบาล ก็จะทำให้ขั้วรัฐบาลมี ส.ส.เพิ่มเป็น 336 เสียง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น