นายกฯแจงสตช.สั่งให้“บิ๊กโจ๊ก”ออกจากราชการเป็นเรื่องจัดการภายใน

วันที่ 19 เม.ย. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ลงนามคำสั่งในให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากพัวพันคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ ว่า ข้อเท็จจริงแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกให้มาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล โดย 3-4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ก็มีการดำเนินการตรวจสอบ และ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้มาพูดคุย และแจ้งให้ทราบว่าต้องรีบให้ส่งตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับ เพื่อจะได้ไปดำเนินการต่อ 

“คำสั่งให้ออกจากราชการเมื่อวานนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ผมมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีความขัดแย้งของบุคลากรในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ซึ่งการตรวจสอบก็ตรวจสอบไป เพราะมีอีกหลายเรื่องที่ต้องตรวจสอบ ทั้งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. แต่กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เรื่องเมื่อวันที่ 18 เม.ย. เป็นคนละเคส คนละกรณี” 

อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้ไปกดดัน ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครไปก้าวก่าย หรือ เร่งรัดอะไร แต่ตนมั่นใจในความสามารถและความเป็นมืออาชีพของคณะกรรมการชุดนี้อยู่แล้วว่าจะต้องทำให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตามองอยู่ 

เมื่อถามว่าการที่มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะเกรงว่าจะมีการไปแทรกแซง ในเรื่องของการดำเนินคดีใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ บอกไว้ว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องของคณะกรรมการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจัดการกันมา

เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตกรณีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มีความคืบหน้าอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเชื่อว่าแต่ละกรณีก็มีความแตกต่างกันไป เรามั่นใจในกระบวนการยุติธรรมว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ท่าน

ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ที่ร่วมคณะนายกฯ ลงพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้ด้วย เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้หนักใจอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และกระบวนการตามกฏหมาย ตนได้เรียนขั้นตอนให้ นายกฯ ได้รับทราบหมดแล้ว