วันที่ 19 เมษายน 2567 สถานการณ์การสู้รบในสหภาพเมียนมายังร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง แหล่งข่าวผู้นำทางทหารระดับสูงของ กองกำลังทหารกะเหรี่ยงคะยา KA เปิดเผยว่า สถานการณ์ภายในรัฐคาเรนนี ว่าที่เมืองลอยก่อว์และเมืองโมเบีย ระหว่างถนนที่เชื่อมกับเมืองทั้งสอง ทหารเมียนมา ได้มีการใช้เครื่องบินขับไล่ ทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนราษฎรและซุ่มโจมตีราษฎรที่เดินทางผ่านไปมาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
ขณะที่ทหารเมียนมาในเมืองลอยก่อว์ประกาศให้ประชาชนที่หลบหนีภัยสงครามเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาได้เป็นปกติ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นกลลวงของทหารเมียนมา ที่ต้องการสังหารราษฎรชาวคาเรนนี ทั้งทางกองทัพคาเรนนีได้ประกาศเตือนให้ประชาชน หลบหนีออกจากตัวเมืองลอยก่อว์ ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบและมีการสู้รบมาโดยตลอด
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปฏิบัติการ 1111 เป็นต้นมา เมืองลอยก่อว์ ยังคงมีการสู้รบกันอย่างต่อเนื่องและเป็นเขตพื้นที่สงคราม เครือข่ายชุมชน Karenni Communities เปิดเผยข้อมูลว่า ตั้งแต่มีการสู้รบในเมืองลอยก่อว์ มีบ้านเรือนของราษฎร และอาคารศาสนสถาน เสียหายจากการถูกโจมตีด้วยเครื่องบินขับไล่และกระสุนปืนใหญ่ จำนวน 1,453 แห่ง และทำให้มีราษฎรหนึ่งในสามของ 280,000 คนในเมืองลอยก่อว์ต้องอพยพหนีภัยสงครามออกจากพื้นที่สู้รบ
สำหรับที่ค่ายผาซอง เมืองผาซองรัฐคาเรนนี กองกำลังผสม ยังคงกดดันทหารเมียนมา กองพัน 134 / 135 ที่หลบอยู่ในฐานที่มั่นดังกล่าวด้วยโดรนและสไนเปอร์ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางหน่วยสไนเปอร์หญิง จาก KNPLF - (KPL-Army) ยุทธวิธี (1) Progressive Karenni People Force กองพลซุ่มยิงเข้าร่วมการต่อสู้อย่างกล้าหาญ
สำหรับในพื้นที่ของ กองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ KNU วันนี้มีรายงานว่า ทหารเมียนมา ได้ยิง ค.81 จำนวน 5 นัดตกเข้ามาในฝั่งไทย พื้นที่ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยพื้นที่ตรงข้ามคือ พื้นที่รับผิดชอบกองพลน้อยที่ 7 LNLA /KNDO เมอนาปลอ
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2567 ทหารเมียนมา ได้ยิง ค.ขนาด 120 มม. จำนวน 1 นัดตกเข้ามาในเขตไทย บริเวณพื้นที่ บ้านห้วยมะโอ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำยวม เขตไทย ใกล้ ศูนย์การเรียนรู้บ้านห้วยมะโอ หมู่ 2 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อราษฎรไทย