กกต.แจง แนวปฏิบัติเลือกตั้งสว.ชุดใหม่ สำหรับปชช. สื่อ ผู้สมัคร นักการเมือง

30 เม.ย. 2567 | 13:12 น.

“แสวง บุญมี”เลขาฯ กกต. แจงแนวปฏิบัติตัวของประชาชน สื่อ ผู้สมัคร นักการเมือง ใครอยู่ตรงไหนทำอะไร ในการเลือก สว. ชี้ ผู้สมัครทำได้แค่แนะนำตัว ห้ามนักการเมือง-พรรคการเมืองช่วยเหลือผู้สมัคร สื่อทำตามหน้าที่ ประชาชนช่วยสังเกตการณ์

วันนี้ (30 เม.ย. 67) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงถึงการปฏิบัติตัวของประชาชน สื่อ ผู้สมัคร นักการเมือง ใครอยู่ตรงไหนทำอะไร ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยระบุว่า 

เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือก ส.ว. ในส่วนของประชาชนไม่มีสิทธิเลือก ส.ว ตามรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ให้สิทธิในเรื่องนี้ แต่สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจาก สำนักงาน กกต. เกี่ยวกับประวัติของผู้สมัครทั้งหมด 

ไม่ว่าจะอยู่กลุ่มสาขาอาชีพใดทั้ง 20 กลุ่ม  ในชั้นอำเภอ 928 อำเภอ ชั้นจังหวัด 77 จังหวัด  และ ระดับประเทศ ได้ที่ แอพพลิเคชั่น smart vote และ เว็ปไซต์สำนักงาน กกต.  รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวจากสื่อต่างๆ ซึ่งสำนักงาน กกต. จะเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ที่ประชาชนควรรู้ผ่านสื่อฯ ให้มากที่สุด

ส่วนในวันเลือก ส.ว. สามารถไปสังเกตการณ์การเลือก ได้ทุกที่  ทั้งในชั้นอำเภอ จังหวัด และ ระดับประเทศ  โดยสำนักงาน กกต.จะจัดให้มีโทรทัศน์วงจรปิด ถ่ายถอดบรรยากาศภายในที่เลือกตั้ง ให้ดูตลอดการลงคะแนนจนปิดเวลาลงคะแนน

นายแสวง ระบุว่า ขอให้ประชาชนสังเกตการณ์ ตรวจตรา ตรวจสอบ แล้วแจ้ง กกต. ว่ามีผู้สมัคร พรรคการเมืองใด หรือผู้ใด แนะนำไม่เป็นไปตามระเบียบ หรือ ฝ่าฝืนกฎหมาย  

ในส่วนของสื่อมวลชน สามารถเสนอข่าวได้ตามปกติตามหลักวิชาชีพ อาทิ รายงานข่าวในที่เลือกตั้ง ใครสมัครในกลุ่มสาขาอาชีพใด วิเคราะห์ จัดเวที  เสนอข้อเท็จจริง สัมภาษณ์ผู้สมัครเกี่ยวกับเรื่องอื่นได้ แต่ต้องไม่เกี่ยวกับการแนะนำตัวของผู้ถูกสัมภาษณ์  

สื่อที่สมัคร ส.ว. ทำหน้าที่การงานได้ตามปกติ แต่อย่าไปพูดแนะนำตัว ว่าสมัคร ส.ว. มีประวัติ หรือ ประสบการ์อย่างไร  

ทั้งนี้ จากระเบียบที่ออกมา เพื่อใช้บังคับกับผู้สมัคร ไม่ได้ใช้บังคับกับสื่อ แต่ต้องพึงระวังในการทำหน้าที่สื่อฯ  ต้องไม่เป็นช่วยเหลือการแนะนำตัวผู้สมัครรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ      

สำหรับ ผู้สมัคร ส.ว. ต้องแนะนำตัวตามที่กฎหมาย และระเบียบที่ กกต.กำหนด ทำมากไปกว่านั้นอาจถูกศาลพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือ ถ้าเป็นโทษเกี่ยวกับการทุจริต เช่น รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิแต่มาสมัคร ซื้อเสียง หลอกลวง รับการช่วยเหลือจากคนของพรรคการเมือง จะมีโทษอาญาด้วย คือ ทั้งโทษจำคุก และ ปรับ 

นักการเมือง  ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองต้องไม่ไปช่วยเหลือผู้สมัคร ส.ว. นั่นหมายถึงการห้ามพรรคการเมืองไปโดยปริยาย          

ส่วนการเลือก ส.ว. เป็นระบบปิดจริงหรือ นายแสวง ชี้แจงว่า เมื่อดูจากรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ก็ต้องยอมรับว่า ไม่ได้ให้สิทธิกับประชาชนในการเลือก แต่นั่นเป็นเพียงอย่างเดียวที่ประชาชนถูกตัดสิทธิไป ส่วนการมีส่วนร่วมอย่างอื่น ประชาชนก็ยังมีส่วนร่วมเหมือนเดิม เหมือนการเลือกตั้งโดยทั่วไป   

“เรื่องนี้สำนักงาน กกต. ได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นอย่างดี จึงได้ออกแบบให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตาม สังเกตการณ์การเลือก ส.ว. ตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกา    จนถึงวันลงคะแนน อย่างใกล้ชิด” เลขาธิการ กกต. ระบุ