กกต.พร้อมรับสมัคร ส.ว.ทั่วประเทศ วันแรกเริ่มพรุ่งนี้

วันนี้(19 พ.ค.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) ได้ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมสถานที่รับสมัครสมาชิกวุฒิสภา ส.ว. ซึ่งจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 20-24พ.ค. 2567 โดยไปตรวจเยี่ยมที่สำนักงานเขตคันนายาวและเขตบางกะปิ 

นายแสวง  กล่าวย้ำถึงความพร้อมและมั่นใจสำหรับการรับสมัคร ส.ว. วันแรกพรุ่งนี้ทั่วประเทศ ส่วนการแนะนำตัวของผู้สมัคร ส.ว. ยืนยันว่า กกต.ไม่ได้จำกัดสิทธิของผู้สมัคร สิทธิของประชาชน หรือสิทธิของสื่อมวลชน แต่การไม่ให้หาเสียง ให้ใช้วิธีแนะนำตัวเพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการแข่งขัน  สุจริตเที่ยงธรรม จะไปฮั้วหรือแสดงวิสัยทัศน์เสนอนโยบายไม่ได้ 

โดยผู้สมัคร จะกรอกประวัติหรือแบบ สว. 3 ที่จะสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ ในช่องทางต่างๆ เพื่อให้ผู้สมัครท่านอื่นหรือประชาชนเข้าถึงข้อมูลอยู่แล้ว เพื่อเป็นการป้องกันการฮั้ว หรือแลกคะแนน 

ที่กฎหมายออกแบบป้องกันไว้ระดับหนึ่ง คือ การเลือกไขว้ แต่อาจไม่เพียงพอ สำหรับผู้ที่จะชนะเป็น ส.ว. ดังนั้น สำนักงาน กกต.ก็ได้เตรียมความพร้อม ตั้งแต่เริ่มให้ความรู้ ก่อนมีพระราชกฤษฎีกาเลือก ส.ว. จนถึงวันที่มีพระราชกฤษฎีกา  กกต.มีการตั้งศูนย์ข่าวในส่วนกลาง ระดับจังหวัดจังหวัด มีผู้ตรวจการเลือกตั้งและชุดหาข่าว ขอให้เชื่อมั่นได้ 

แต่หากประชาชนพบว่า มีการทำให้การเลือกไม่สุจริต เที่ยงธรรม  มีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมาย สามารถส่งข้อมูลมาที่แอพพลิเคชั่น ส่งมาที่ตาสับปะรด ซึ่งกฎหมายกำหนดมีเงินค่าตอบแทนสำหรับการแจ้งเบาะแสด้วย

นายแสวง ยืนยันว่า จะได้ ส.ว.ชุดใหม่ 200 คนตามกำหนดเวลาที่วางไว้อย่างแน่นอน เมื่อมาเห็นหน้างานยิ่งมีความมั่นใจ  แม้ส่วนตัว ยอมรับว่ากังวลใจนิดหน่อย แต่เมื่อลงพื้นที่คุยกับคนทำงานจึงมั่นใจ 

ส่วนสิ่งที่ติดอยู่ในใจ คือ ตัวคนจะเหมาะสมเป็น ส.ว.หรือไม่ ซึ่งไม่ได้อยู่ที่ กกต. แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของ ส.ว. ว่าเราจะได้ส.ว.แบบไหน แต่ย้ำว่า ได้ 200 คนได้ตามโรดแมปแน่นอน (ก.ค.2567 ได้ 200 ส.ว.)

สำหรับเรื่องร้องเรียน นายแสวง  กล่าวว่า มี 3 ประเภท คือ เรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เมื่อประกาศไปแล้ว ผู้สมัครเห็นว่าสมัครได้ แต่ประชาชนอาจเห็นว่าไม่มีคุณสมบัติ ก็อาจยื่นเรื่องต่อผู้อำนวยการเลือกฯ เพื่อยื่นต่อให้ศาลฎีกาพิจารณา 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการจำกัดสิทธิ เช่นไม่ได้เลือกตั้งส่วนท้องถิ่น 2 ปี หรือ ลงสมัครมากกว่า 2 กลุ่มก็ต้องลบชื่อออก และจะส่งต่อให้ศาลฎีกาพิจารณาให้เสร็จก่อน 1 วัน แต่หากไม่เสร็จให้ดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้องระหว่างกระบวนการลงคะแนนเลือก ที่สามารถทักท้วงกรรมการวินิจฉัยได้ทันที และร้องต่อกกต.ได้อีกช่องทางหากไม่พอใจ ซึ่งคำวินิจฉัยของ กกต. เป็นที่สิ้นสุด 

ขณะเดียวกันยังมีเรื่องร้องเกี่ยวกับการซื้อเสียง การฮั้วการจ้างคนมาลงสมัคร ซึ่งต้องใช้เวลา ในการพิจารณา อาจไม่แล้วเสร็จตามกระบวนการเลือกระดับอำเภอ จังหวัด ประเทศ  เนื่องจากต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่อยากให้สบายใจว่าทั้ง 3 เรื่องจะไม่กระทบกับไทม์ไลน์ หรือ โรดแมป ในการประกาศให้ได้ ส.ว. 200 คน

เลขาธิการ กกต.เชื่อว่า  ประชาชนตื่นตัว กับการเลือก ส.ว. ครั้งนี้หลังมีการรณรงค์จาก กกต. และกลุ่มอื่นๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ความสนใจที่จะมาลงสมัคร มีเงื่อนไขจำนวนมาก เช่น เกณฑ์อายุ และกลุ่มอาชีพ ที่ต้องมีประสบการณ์ อาจทำให้ผู้สมัครเหลือน้อย 

แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะยังคงมีผู้สมัครจำนวนมาก และช่วงนี้อาจอย่างชั่งใจ รอการตัดสินใจลงสมัคร ดังนั้น จึงต้องรอดูวันรับสมัคร ซึ่งวันพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกว่าจะมีผู้สนใจมากแค่ไหน