พบ“กลุ่มผู้สูงอายุ”นำโด่งสมัคร ส.ว. 5,211 คน ตามด้วยกลุ่มสตรี-การศึกษา

26 พ.ค. 2567 | 06:42 น.

กกต.เปิดยอดสมัคร สว. 20 กลุ่มอาชีพทั่วประเทศ พบกลุ่มผู้สูงอายุฯ สมัครมากสุด 5,211คน ตามด้วยกลุ่มสตรี 4,589 คน กลุ่มการศึกษา 4,477 คน กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม สมัครน้อยสุดแค่ 609 คน

วันนี้ (26 พ.ค.67) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้สรุปจำนวนผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งมีการเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 20 -24 พ.ค. 2567และมีจำนวนผู้สมัครทั้งสิ้น 48,117 คน โดยจำแนกเป็นรายกลุ่ม ดังนี้ 

กลุ่มที่ 1 กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ได้แก่ ผู้เคยเป็น ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐหรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 2,478 คน

กลุ่มที่ 2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็น ผู้พิพากษา ตุลาการ อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 1,869 คน

กลุ่มที่ 3 กลุ่มการศึกษา ได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหาร สถานศึกษาบุคลากรทางการศึกษา หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 4,477 คน

                                               พบ“กลุ่มผู้สูงอายุ”นำโด่งสมัคร ส.ว. 5,211 คน ตามด้วยกลุ่มสตรี-การศึกษา

กลุ่มที่ 4 กลุ่มการสาธารณสุข อันได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นแพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร หรืออื่น ๆ ในทำนอง เดียวกันมีผู้สมัครจำนวน 1,628 คน

กลุ่มที่ 5 กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกันมีผู้สมัครจำนวน 3,422 คน

กลุ่มที่ 6 กลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 3,628 คน

กลุ่มที่ 7 กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงาน ของรัฐ ผู้ใช้แรงงานหรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 2,440 คน 

กลุ่มที่ 8 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภคทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน หรืออื่น ๆ ในทำนอง เดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 1,180 คน

กลุ่มที่ 9 กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมายว่าด้วย การนั้น หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกันมีผู้สมัครจำนวน 1,844 คน

กลุ่มที่ 10 กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตาม ข้อ 9 มีผู้สมัครจำนวน 1,200 คน

กลุ่มที่ 11 กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว อันได้แก่ผู้ประกอบ ธุรกิจท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกันมีผู้สมัครจำนวน 1,177 คน

กลุ่มที่ 12 กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 609 คน

กลุ่มที่ 13 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม หรืออื่น ๆในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 1,039 คน

กลุ่มที่ 14 กลุ่มสตรี มีผู้สมัครจำนวน 4,589 คน

กลุ่มที่ 15 กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 5,211 คน

กลุ่มที่ 16 กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 1,819คน

กลุ่มที่ 17 กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื่น ๆ ในทำนอง เดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 2,168 คน

กลุ่มที่ 18 กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื่น ๆ ในทำนอง เดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 867คน

กลุ่มที่ 19 กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรืออื่น ๆ ในทำนอง เดียวกัน มีผู้สมัครจำนวน 3,816 คน 

กลุ่มที่ 20 กลุ่มอื่นๆ มีผู้สมัครจำนวน 2,656 คน

                           พบ“กลุ่มผู้สูงอายุ”นำโด่งสมัคร ส.ว. 5,211 คน ตามด้วยกลุ่มสตรี-การศึกษา

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอจะตรวจสอบเอกสารและหลักฐานการสมัคร คุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครให้เสร็จสิ้น และภายในวันที่ 29 พ.ค. 2567 จะประกาศบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครที่ผ่านการตรวจสอบทุกกลุ่มอาชีพในเขตอำเภอ แยกเป็นรายกลุ่ม 

โดยมีหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ซึ่งเรียงลำดับตามตัวอักษรของชื่อตัวผู้สมัครของแต่ละกลุ่ม ชื่อตัวและชื่อสกุลของผู้สมัคร อายุ อาชีพ และวุฒิ การศึกษาสูงสุด ประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จังหวัด ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สถานที่เลือก และจัดทำข้อมูลเผยแพร่ทางระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ

เมื่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ ได้ประกาศบัญชีรายชื่อดังกล่าวข้างต้นแล้ว สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะเผยแพร่บัญชีรายชื่อผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ทางเว็บไซต์ ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th และแอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต (Smart Vote) โดยประชาชนสามารถดูรายชื่อผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาและข้อมูลแนะนำตัวผู้สมัคร (สว. 3) จากช่องทางดังกล่าว