"นารากร"นำทีมผู้สมัคร สว. ยื่น 4 ข้อ ขอกกต.ไม่อุทธรณ์เพิกถอนระเบียบแนะนำตัว

27 พ.ค. 2567 | 06:17 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ค. 2567 | 06:36 น.

“นารากร ติยายน”นำทีมผู้สมัคร สว. ยื่น 4 ข้อเรียกร้องจี้ กกต. ไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ปมเพิกถอนระเบียบแนะนำตัว ขอให้เร่งประกาศสถานที่เลือกระดับอำเภอ และให้ประชาชนร่วมสังเกตการณ์เลือก

วันนี้ (27 พ.ค. 67) ผู้สมัครรับเลือกกเป็นสมาชิกวุฒิสภา(สว.)  ภาคประชาชน นำโดย น.ส.นารากร ติยายน นพ.ไพโรจน์ สว่างตระกูล น.ส.ชลณัฏฐ์ โกยกุล นายธีรชาติ ก่อตระกูล และ นายทวีป วานิชย์หานนท์ เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกร้องให้ไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่ให้เพิกถอนระเบียบกกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. รวม 4 ข้อ 

น.ส.นารากร กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของเราประกอบด้วย  1.ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา กกต. มีเวลา 30 วันในการยื่นอุทธรณ์  ซึ่งอยากให้ไม่ยื่นอุทธรณ์ เพื่อให้คำพิพากษาของศาลปกครองกลางมีผลในทางปฏิบัติทันที

จึงอยากให้กกต.ประกาศอย่างเป็นทางการโดยเร็วว่า จะไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว เพื่อให้ผู้สมัคร สว. ทุกคนสามารถแนะนำตัวได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมปราศจากความหวาดกลัว

                        \"นารากร\"นำทีมผู้สมัคร สว. ยื่น 4 ข้อ ขอกกต.ไม่อุทธรณ์เพิกถอนระเบียบแนะนำตัว

2. หากกกต.มีการยกเลิกระเบียบฉบับเดิม และออกระเบียบฉบับใหม่ จะต้องไม่จำกัดเนื้อหาในการแนะนำตัว และไม่จำกัดการรับรู้ของประชาชน 

3. กกต.ต้องประกาศสถานที่เลือกในระดับอำเภอโดยเร็ว และต้องเป็นสถานที่ที่เป็นที่รู้จักเดินทางสะดวก อีกทั้งให้ความชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนแนวปฏิบัติว่าการเลือกจะต้องทำอย่างไร ผู้สมัครต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ใช้เวลาในการเลือกเท่าใด

4. กกต.ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไป สามารถสังเกตการณ์เลือก สว. ได้ตลอดกระบวนการ และให้ผู้สังเกตการณ์ ผู้สมัครมีสิทธิในการทักท้วงกระบวนการที่ไม่ชอบโดยกฎหมาย โดยสะดวกและรวดเร็ว

ด้านนายทวีป กล่าวว่า ขณะนี้เวลากระชั้นชิดมากแล้ว หาก กกต.ยื่นอุทธรณ์ แล้วศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จะถือว่า กกต.มีความสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดริดรอนสิทธิประชาชน คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ออกมาก็ระบุอยากให้การแนะนำตัวเป็นไปอย่างกว้างขวาง ให้ประชาชนได้รู้ว่าตัวแทนเป็นใคร มาทำอะไร เพื่อประชาชนจะได้ตรวจสอบประวัติผู้สมัครได้ ซึ่งก็จะทำให้การคัดเลือกครั้งนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

เพราะแค่ในขั้นตอนของการรับสมัคร ขณะนี้ตนก็มีข้อมูลว่า ที่ จ.ชุมพร มีคนรวมกลุ่มกันสมัครคัดเลือกเพื่อบล็อกโหวต ทำให้การคัดเลือกที่ กกต. จัดขึ้น เป็นไปอย่างไม่สุจริตเที่ยงธรรม โดยเจอในกลุ่ม 8 คือ กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภคทรัพยากรธรรมชาติ  ซึ่งก็จะนำข้อมูลนี้ส่งให้กับกกต.ด้วย

ด้านนายธีรชาติ มองว่า จำนวนผู้สมัครที่น้อยกว่าที่กกต.ตั้งเป้าไว้ เกิดจากความกลัวในเรื่องกฎเกณฑ์การแนะนำตัว ซึ่งการที่ กกต.กำหนดให้ผู้สมัครแนะนำตัวกันในหมู่ผู้สมัครเท่านั้น ก็ผิดธรรมชาติ เพราะปัจจุบันสื่อมันออนไลน์หมดแล้ว 

“ตอนนี้คิดว่า กกต. ยังมีทางเลือกกลับมาสร้างความหวังให้กับประชาชน โดยต้องคิดว่าทำอย่างไรให้กระบวนการมีส่วนร่วม ซึ่งก็อยากให้ กกต. คิดได้ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ เพราะถ้าการเลือกไม่โปร่งใส ก็จะกระทบต่อทุกคน จึงอยากให้มีการเปิดเผยให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบการคัดเลือกครั้งนี้ให้มากที่สุด”