นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ถาม-ตอบ 3 คดีดังที่จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ ได้แก่ คดียุบพรรคก้าวไกล คดีคุณสมบัตินายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคดีอัยการสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ถาม : คดีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งยกคำร้องของ กกต. ที่ให้ยุบพรรคก้าวไกลได้หรือไม่ ในเมื่อศาลได้เคยวินิจฉัยให้ พรรคหยุดรณรงค์เลิก 112 เพราะมีผลกร่อนเซาะสถาบันของชาติไว้คดีหนึ่งแล้ว
ตอบ : ผมว่าทีมพรรคก้าวไกลเขาสู้คดีไว้ถูกต้องตามแนวทางในกฎหมายแล้วว่า แม้การกระทำจะไม่ถูกต้องก็ไม่ได้หมายความว่าต้องยุบพรรค รัฐธรรมนูญก่อนฉบับ ปี 60 ก็เคยบัญญัติไว้ชัดแล้วว่า แม้ศาลจะสั่งให้หยุดพฤติการณ์อันเป็นการล้มล้างแล้วก็ตาม ศาลยังมีดุลพินิจที่จะยุบหรือไม่ยุบพรรคนั้นก็ได้
ถาม : แล้วมารัฐธรรมนูญ 60 ตัดอำนาจยุบพรรคของศาลออกไปหรือไม่
ตอบ : ขาตัดออกไปให้ กกต. เป็นผู้เริ่มคดีเป็นอีกคดีหนึ่ง คือให้ไปรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้ว่า พรรคก้าวไกลเป็นการรวมตัวเพื่อเซาะกร่อนสถาบันกษัตริย์จริงๆหรือไม่ ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็ไม่ทราบว่ามีพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนในศาลเพียงพอหรือไม่
ถาม : ถ้าศาลยกคำร้อง พวกสลิ่ม คงตีอกชกหัวตายเป็นฝูงเลย
ตอบ : ศาลท่านต้องตัดสินไปตามครรลองที่ปรากฏในครรลอง ถ้ายังสงสัยท่านจะไต่สวนเพิ่มเติมก็ได้ ส่วนพวกสีต่างๆ จะลุ้นกันอย่างไรก็ว่ากันไปเป็นส่วนตัว ตาม รัก โลภ โกรธ หลงที่มี
ถาม : คดีนี้ทางรอดของ นายกฯเศรษฐา อยู่ที่ตรงไหนบ้าง
ตอบ : ตุลาการข้างน้อยกลุ่มหนึ่ง ท่านเห็นไปแล้วว่า กรณีนี้ไม่ใช่คดีขาด “คุณสมบัติ” ดังนั้นในภายหน้าแม้จะไต่สวนกันต่อไปว่า นายกฯเศรษฐา มีพฤติการณ์ตุกติกเพราะขอความเห็นแล้วใช้ความเห็นกฤษฎีกาโดยไม่ซื่อตรงก็ตาม แต่ในที่สุดท่านเหล่านี้ก็คงตัดสินให้หลุดจากตำแหน่งไปตามการไต่สวนไม่ได้
ถาม : แล้วตุลาการข้างมากที่ให้รับคำร้องจะฟัน นายกฯเศรษฐา แน่ๆเลยใช่ไหม
ตอบ : ก็ไม่ใช่เช่นนั้น บางท่านอาจเห็นแต่เพียงว่า คำร้องถูกต้องชัดเจน จึงรับไว้ไต่สวนก่อนเท่านั้นก็ได้ ต้องดูผลการไต่สวนต่อไปว่า ผู้ถูกร้องเลวร้ายขนาดไหนด้วย
ถาม : อย่างน้อยในข้างมากนี้ ก็มีตุลาการที่ให้เศรษฐาหยุดทำหน้าที่อยู่ด้วย ท่านเหล่านี้ต้องรอฟันคออยู่แน่ๆแล้ว
ตอบ : มันก็ไม่ใช่จะเป็นอย่างนั้น คดีนี้มันไม่ชัดเหมือนกรณี คดีนายกฯประยุทธ์ที่ปัญหาในคดีเป็นข้อกฎหมายล้วนๆ มีเส้นแดงชัดเจนว่า ดำรงตำแหน่งเกินสองครั้งไม่ได้ ศาลสั่งให้หยุดทำหน้าที่เลยก็มีเหตุผล แต่คดีนายกฯเศรษฐาไม่มีเส้นแดงชัดเจนอย่างนั้น ตุลาการจึงเห็นต่างกันได้ ส่วนท่านที่เห็นให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่ได้หมายความว่า ท่านตั้งท่าจะฟันนายกฯเศรษฐา อย่างแน่นอนเช่นกัน
ถาม : สรุปแล้วยังฟันธงอะไรไม่ได้
ตอบ : มันชัดว่ามีการตุกติก ไม่ตรงไปตรงมา แต่จะให้ยุติเป็นการขาดคุณสมบัติ เหมือนพระต้องปาราชิก เพราะล้มเซไปจับหน้าอกสีกาแล้วนิ่งอยู่ 2 นาที นั้น แค่นี้ยังต้องมีพฤติการณ์ประกอบอีกไม่น้อย
ถาม : อาจารย์วิษณุ เครืองาม คงชี้ทางสู้คดีให้ นายกฯเศรษฐาเห็นแล้ว เขาถึงได้แต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาคณะรัฐมนตรี ( สลค. )
ตอบ : ผมก็อ่านตรงกับคุณ พอให้เป็นที่ปรึกษานี้แล้ว ต่อไปอาจารย์ก็ไปให้ปากคำในศาลในฝ่ายนายกฯเศรษฐาได้สบายในฐานะเป็นที่ปรึกษาราชการทั้งเรื่องแนวปฏิบัติ สลค.ในการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีและในการสอบถามกฤษฎีกาได้สบาย ไม่เปลืองตัว
ถาม : ที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง นายกฯทักษิณ นี่ วงการกฎหมายผิดคาดไหม
ตอบ : คดีนี้กรมพระธรรมนูญ กองทัพบก เป็นผู้รวบรวมคดี อสส.ท่านเดิมก็มีความเห็นควรสั่งฟ้องไว้แล้ว พอผู้ต้องหากลับมาและขอความเป็นธรรม อัยการรับไว้และขอเวลาพิจารณา ก็ถูกต้องแล้วที่ต้องฟังผู้ต้องหาบ้าง พอสอบเพิ่มเติมแล้วก็สั่งฟ้อง นี่ก็ไม่ผิดปกติอะไร คดีสำคัญโดนคนสำคัญกล่าวหาโดยกองทัพบกอย่างนี้ ไม่มีใครสั่งเฮงๆ ซวยๆ ได้หรอก
ถาม : ถ้าวันที่ 18 คุณทักษิณ ไม่มาจะเป็นอย่างไร
ตอบ : ไม่มาก็น่าจะโดนหมายจับเลย ที่เลือกเริ่มป่วยโควิดในวันที่ 28 เพื่อขอเลื่อนไม่มาในวันที่ 29 เพราะติดโควิดนั้น ก็คงต้องการเวลาเตรียมการเท่านั้น วันจริงผมว่าเขาต้องมา แต่ต้องจัดการให้ดูดี ไม่ใช่ให้ไปนั่งอยู่หน้ากรงขังใต้ถุนศาล 2 ชั่วโมง รอศาลขึ้นสั่งคำขอประกันตัว อย่างผู้ต้องหาทั่วไป สื่อถ่ายรูปตอนพิมพ์นิ้วมือกันวูบวาบ ส่วนปัญหาว่าศาลท่านจะให้ประกันหรือไม่นั้น ถ้าไม่ให้ท่านก็ต้องมีเหตุผลอธิบายได้
ถาม : อัยการจะค้านประกันว่า “ผู้ต้องหาหนีคดีเป็นนิสัยติดตัวฝังรากเสียแล้ว สุขภาพแท้จริงก็แข็งแรง เพ่นพ่านไปทั่วประเทศ พร้อมจะหนีไปไหนก็ได้ทุกเมื่อ” ยกอย่างนี้ได้ไหม
ตอบ : คงต้องรอฟังเหตุผลในคำขอประกันเขาก่อนครับ ตอนไปศาลเขาอาจจะกลับไปใส่เฝือก ใส่แมสก์ปิดปาก นั่งวีลแชร์ติดท่ออ๊อกซิเจน ยื่นคำร้องขอประกันด้วยมืออันสั่นเทา ด้วยใบหน้าเจ็บปวด อ้างเหตุร่างกายสิ้นสภาพช่วยตัวเองไม่ได้หรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็น่าค้านอยู่หรอก
ถาม : พอผู้พักโทษต้องคดีอย่างนี้ ราชทัณฑ์จะรอรับตัวนำนักโทษไปติดคุกอีก 3 เดือน ตามโทษคดีคอร์รัปชั่นที่เหลือได้เลยไหม
ตอบ : ทำได้ครับถ้าเป็นเรื่องนักโทษ ไปก่อคดีขึ้นใหม่ในระหว่างพักโทษ แต่คดีนี้ไม่ใช่ มันเป็นคดีเก่าที่ต้องคดีขึ้นใหม่อีกคดีเท่านั้น
ถาม : คดีใหม่อย่างนี้ได้ประกันตัว แล้วสู้สามศาลถึงชั้นฎีกาก็ได้เวลาอีก 3-4 ปีสบายๆ
ตอบ : จะไปเลือกหนีเอาตอนศาลฏีกาจะอ่านคำพิพากษาก็ได้ โดยใช้ถุงขนมจนรู้คำพิพากษาก่อน พอรู้ว่าต้องโทษแน่ๆ ก็หนีเลย แต่จากวันนี้ เขายังมีเวลาอยู่ในเมืองไทยอีกนาน
ถาม : อาจารย์ว่า คนคนนี้จะทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์อย่างนี้
ตอบ : ในทาง “ลี้ลับ” คนคนนี้เขาก็ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ปัญหาอยู่ที่ว่าเมื่อเสียบารมีขนาดนี้แล้ว ในพรรคและพวกสีแดง จะมีใครฟังเขาอีกหรือไม่เท่านั้น ส่วนที่เปิดเผยบนดินนั้น เขาก็น่าจะสั่งการเทกำลัง สส.ไป สนับสนุนการเพิ่มความผิดตามมาตรา 112 ลงไปในร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของก้าวไกลด้วยก็ได้ เพราะนี่คือทางรอดคดีทางเดียวของเขา
ถาม : นี่การเมืองไทย จะเกิด“แดง” บวกกับ “ส้ม” จนเป็นพันธมิตรสี “แสด” เช่นนั้นหรือ
ตอบ : ต้องรอดูว่าพรรคก้าวไกลจะก้าวโง่ๆสั้นๆอย่างนั้นหรือไม่....ทางสวรรค์มี ไม่รู้จักเดิน