ในเดือนมิถุนายนถูกประกาศให้เป็นเดือน "Pride Month" เดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ เป็นช่วงเวลาที่กลุ่ม LGBTQ+ ทั่วโลกรวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองอิสรภาพเป็นตัวของตัวเอง
สำหรับประเทศไทยนับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สังคมเปิดกว้างสำหรับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างมาก สิ่งที่เห็นเด่นชัดมากที่สุดเรื่องหนึ่ง คือ ความก้าวหน้าของ กฎหมาย พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นการพิจารณาของรัฐสภา
ก่อนหน้านี้ปลายปี 2566 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ได้เห็นชอบรับหลักการ (วาระแรก) ของร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม จำนวน 4 ฉบับ ซึ่งประกอบด้วย ฉบับของรัฐบาล, ฉบับของภาคประชาชน, ฉบับของพรรคก้าวไกล และฉบับของพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณา
จากนั้นปลายเดือนมีนาคม 2567 ได้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในวาระ 2 และ 3 ต่อมาสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้พิจารณาต่อจากสภาผู้แทนราษฎรได้เห็นชอบร่างกฎหมายฉบับดังกล่าววาระแรกเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567
ปัจจุบันร่างกฎหมายฉบับนี้ยังอยู่ในชั้นของกรรมาธิการ สว.เพื่อนำเข้าสู่การประชุมของวุฒิสภาในวาระ 2 ลงมติรายมาตราและพิจารณาเห็นชอบในวาระ 3 ก่อนจะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
ข่าวดีล่าสุดในวันนี้ (30 พฤษภาคม 2567) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา เปิดเผยว่า ในการประชุมพิจารณากำหนดระเบียบวาระการประชุมวุฒิสภา (สมัยวิสามัญ) ในวันที่ 18-21 มิ.ย.นี้ ว่า
นอกจากการพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด และประธานศาลปกครองสูงสุด รวมถึงให้ความความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุดแล้ว จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วรวมอยู่ด้วย
ปี 2561
ปี 2563
ปี 2564
ปี 2565
ปี 2566
ปี 2567