"ฐากร ตัณฑสิทธิ์" ชำแหละงบประมาณ ปี 2568 ตั้งฉายา “กู้ฉ่ำ กระเป๋าฉีก”

04 มิ.ย. 2567 | 07:04 น.

“ฐากร ตัณฑสิทธิ์" ชำแหละงบประมาณ ปี 2568 ตั้งฉายา “กู้ฉ่ำ กระเป๋าฉีก” เผยกู้สูงถึง 99.99% อีก 40 ล้านบาทชนเพดาน งบกลางพุ่งทะลุ 8.65 แสนล้าน กังขางบแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ไม่มีในกระทรวงดีอี

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊ก  Takorn Tantasith  วิเคราะห์งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จะเข้าการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 ระหว่างวันที่ 19 - 21 มิถุนายน ว่า ดูเอกสารของสำนักงบประมาณ ปี 2568 ในเบื้องต้นแล้วขอตั้งฉายางบประมาณปี 2568 ว่า“กู้ฉ่ำ กระเป๋าฉีก”

นายฐากรกล่าวว่า ที่มาของคำว่า“กู้ฉ่ำ” มาจากกู้เกือบเต็มเพดาน เพราะตั้งวงเงินกู้คิดเป็น 99.99 เปอร์เซ็นต์ ขอไล่เรียงรายละเอียดดังนี้  

 

 

  • วงเงินงบประมาณที่เสนอขอจัดตั้ง 3,752,700 ล้านบาท เป็นการเสนอตั้งงบประมาณแบบขาดดุล มีวงเงินที่ต้องขอกู้เพิ่ม 865,700 ล้านบาท
  • ประมาณการรายรับที่คาดการณ์ว่าจะจัดเก็บภาษีได้ จำนวน 2,887,000 ล้านบาท รวมกับเงินกู้อีกจำนวน  865,700 ล้านบาท รวมเสนอจัดตั้ง 3,752,000 ล้านบาท และข่าวกระทรวงการคลัง แถลงเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา 7 เดือน รัฐจัดเก็บรายได้พลาดเป้าไป 39,102 ล้านบาท 
  • วงเงินที่ขอกู้จากเดิมปี 2567 ขอกู้ 693,000 ล้านบาท เป็นขอกู้ในปี 2568 จำนวน 865,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขอกู้เกือบเต็มกรอบวงเงิน ตามเงื่อนไข พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 ขาดไป 40 ล้านบาท จากกรอบวงเงินสูงสุดที่ขอกู้ได้ 865,740 ล้านบาท

นายฐากร กล่าวว่า สำหรับที่มาของคำว่า “กระเป๋าฉีก” มาจากข้อสังเกตในเรื่องการใช้ จัดสรรงบประมาณ  มีรายละเอียดดังนี้ 

1) งบกลาง รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง และรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินทุนสำรอง ไม่มีการจัดตั้งงบประมาณไว้เลย เพราะเหตุใด

2) งบกลาง มีการตั้งรายการอื่นมาทดแทน ชื่อ “ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐ์กิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ”  จำนวน 152,700 ล้านบาท ตรงนี้คืองบประมาณดิจิทัลวอลเล็ตใช่หรือไม่ ?

3) งบประมาณในส่วนของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แผนงานพื้นฐานความมั่นคง จากเดิมตั้งไว้ในปี 2567 จำนวน 3,384,190 ,100 บาท เสนอขอตั้งในปี 2568 จำนวน 6,226,024,700 บาท เพิ่มขึ้น 2,841,834,600 บาท เพิ่มมา 84% มีคำถามว่าเหตุใดจึงตั้งงบประมาณในแผนงานนี้ไว้มากมาย

4) แผนงานการบูรณาการการต่อต้านการทุจริต และประพฤติมิชอบ มีส่วนราชการจำนวนมากขอตั้งงบประมาณไว้ที่หน่วยงานตนเอง เหตุใดจึงไม่ตั้งงบประมาณไว้ที่หน่วยงานมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง เช่น ป.ป.ช.  ป.ป.ท. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ดีเอสไอ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการประหยัด และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพกว่าหรือไม่

 5) งบฯ ของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งประมาณลดลง 62,388,931,500บาท แล้วไปตั้งเพิ่มตรงให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้น 94,799,480,900 บาท ( จากเดิมปี 2567 ตั้งงบให้ท้องถิ่น 100,838,313,400 บาท ปี 2568 ขอจัดตั้ง 95,637,794,300 บาท ) ถือว่าเป็นการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ควรกระจายลงสู่ท้องถิ่นให้มากกกว่านี้ เพราะยังมีการตั้งงบประมาณไว้ในกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในปี 2568 จำนวน 175,819,402,300 บาท 

และ 6) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ตั้งงบประมาณในการป้องกัน และปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชน และประเทศชาติ ตลอดจนนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพราะเรื่องผลประโยชน์ของพนันออนไลน์ ไม่มีการตั้งงบประมาณไว้เลย

นายฐากรกล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นข้อสังเกตจากข้อมูลเบื้องต้นของของสำนักงบประมาณ ถ้าหากสำนักงบประมาณฉบับเต็ม ทางทีมงาน ส.ส.ของพรรคไทยสร้างไทยจะนำมาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปอภิปรายในสภาผู้แทนฯ.