วันนี้ (4 มิถุนายน 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรกภายหลังจากรับตำแหน่ง ว่า เคยเข้าออกมา 30 ปีแล้ว ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ไม่ได้ตื่นเต้นโลดโผนอะไร มาครั้งนี้ก็มาทำหน้าที่ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีตามที่มีคำสั่งมอบหมาย และอนุญาตให้เข้าที่ประชุมครม.ได้ เผื่อจะมีประเด็นเกิดถกเถียงกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเข้ามานั่งในครม.จะสามารถทักท้วงอะไรได้บ้างหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าจะท้วงก็ทำได้ แต่ไม่ได้ท้วงทุกเรื่อง เรื่องใดทำมาดีแล้ว หรือไม่ได้สงสัย ไม่มีอะไรให้ทักท้วง
“ไม่แปลกประหลาด รัฐบาลที่ผ่านมาก็มีคนนอกเข้ามานั่ง ส่วนใหญ่นั่งเฉย ๆ ไม่ได้ท้วง ถ้ามีอะไรขึ้นมาก็โน๊ตเรียนนายกฯ ได้ อย่างน้อยไม่ได้นั่งเพื่อที่จะท้วง นั่งเพื่อที่จะวันหนึ่งเมื่อรัฐมนตรีไปกันหมดแล้วเกิดคดีคความขึ้นมา ก็จะมีคนช่วยจด ช่วยจำ ช่วยเป็นพยาน ข้าราชการทำหน้าที่นี้ได้แต่บางคดีต้องการคนนอก ไม่มีส่วนได้เสีย”นายวิษณุกล่าวและว่า
“ผมเห็นใจท่านนายกฯ ก็คิดว่าจะช่วยท่านสักระยะหนึ่ง ไม่น่าจะทำให้ตัวเองเกิดอันตรายอะไร ไม่น่าจะเป็นผลเสียอะไรกับประเทศชาติด้วย ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้นมาก การเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ไม่ใช่ที่ปรึกษาทางการเมือง ไม่มีตำแหน่ง รถประจำตำแหน่งก็ไม่มี บริษัท บริวารตามหลังก็ไม่มี ห้องทำงานก็ไม่มี”นายวิษณุกล่าวถึงเหตุผลการกลับมารับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้รับเงินเดือนหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้ ตราบใดที่กระทรวงการคลังการคลังยังไม่กำหนด
เมื่อถามว่า ได้รับเบี้ยประชุมหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เบี้ยประชุมก็ไม่ได้ เพราะตนไม่ได้เป็นกรรมการ ยังไม่มีองค์ประชุม
เมื่อถามว่า มีเงินและมีเกียรติยศอยู่แล้ว การกลับเข้ามาครั้งนี้ยังต้องการอะไรอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนคิดว่าประเทศชาติน่าจะต้องการคนช่วยแก้ปัญหา ตนเป็นคนเล็กๆคนหนึ่งที่มาช่วยแก้ปัญหาให้รัฐบาลในบางเรื่อง ที่รัฐบาลมีข้อสงสัย
“ไม่ได้ต้องการเงิน เกียรติยศ ลดเกียรติด้วยซ้ำไปจากรองนายกรัฐมนตรีมาเป็นที่ปรึกษา ที่ปรึกษาแบบนี้ สมัยที่ผมเป็นรองนายกฯ ตั้งแบบนี้ที่ปรึกษาแบบนี้เกือบ 10 คน สมัยรัฐบาลคึกฤทธิ์เรียกว่า ตำแหน่งเทกระโถน”นายวิษณุกล่าว
เมื่อถามว่ามีเงื่อนไขอะไรในการมารับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า มี เป็นเงื่อนไขเล็ก ๆ แต่ไม่ใช่เงื่อนไขเกี่ยวกับตัวเอง ไม่ขอเล่า เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างตนกับนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า มีเงื่อนไขการเปลี่ยนไตใหม่ที่โรงพยาบาลพระราม 9 หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า
“ไม่มี ไม่จริง เพราะผมไม่เปลี่ยน บอกกับหมอแล้ว และหมอก็เห็นด้วย ยังไม่ควรจะเปลี่ยน เพราะว่าการเปลี่ยนไตทำให้ต้องกินยากดภูมิต้านทาน ซึ่งคนเราพอภูมิต้านทานลดลง โรคอื่นแทรกง่าย จะไปเป็นโรคอื่น”
นายวิษณุกล่าวว่า อีกประการหนึ่ง การจะหาไตให้เหมาะกับร่างกายของตัวไม่ได้ง่าย ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ใช้ไตของลูก แต่ตนไม่อยากเอาไตของลูก
เมื่อถามว่า การมารับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้เป็นการการันตีว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ครบเทอม 4 ปีหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “อยู่ที่ฝีมือรัฐบาล”