“บิ๊กโจ๊ก”ดิ้นฝากชีวิตตำรวจไว้กับศาลปกครอง

06 ส.ค. 2567 | 11:13 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2567 | 11:22 น.

มติก.พ.ค.ตร.ที่วินิจฉัยว่าคำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” รองผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ “แมวเก้าชีวิต”ผู้นี้ จำเป็นต้องดิ้นสู้ด้วยการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้าย แต่อาจต้องใช้เวลานาน 2-3 ปี กว่าจะถึงที่สุด ขณะที่เวลาราชการเหลืออีก 7 ปี

ภายหลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้มีมติยกคำอุทธรณ์ร้องทุกข์ของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่ถูกคำสั่งของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ขณะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2567

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่โทรศัพท์สอบถามในเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่รู้ผลออกมาเป็นอย่างไร ยังไม่ได้รับผลคำวินิจฉัย อยู่ระหว่างรอ และไม่ทราบว่า เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ก.พ.ค.ตร.  มีการประชุมลับจนถึงเกือบเที่ยงคืน

“ยืนยันว่าหากผลออกมาเป็นลบ หรือ คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมาย ก็จะยื่นฟ้องศาลปกครองสูงสุดต่อ ภายใน 90 วัน”

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2567 พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้เข้าชี้แจงด้วยวาจา ต่อ ก.พ.ค.ตร.  และเคยให้สัมภาษณ์ว่า หากผลคำวินิจฉัยออกมาเป็นลบ ยังมีสิทธิ์ร้องศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสถานะการเป็นตำรวจ และพิจารณาเพิกถอนคำสั่งให้ออกจากข้าราชการไว้ก่อน โดยจะฟ้องร้องในทุกประเด็นตามที่กฎหมายให้สิทธิ์

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อดีต ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงกรณีบิ๊กโจ๊กยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ว่า อาจต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี กว่าจะถึงที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ยังเหลืออายุราชการในการกลับมาดำรงตำแหน่งได้ หากคดีถึงที่สุดแล้ว พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เป็นฝ่ายชนะ

แต่จะเป็นการเสียโอกาส เสียเวลา และ ต้องมีผู้รับผิดชอบ ตั้งแต่ผู้ออกคำสั่งคือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ และอาจถูกฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากถือว่ามีเจตนาพิเศษหรือไม่ เพราะเป็นรอง ผบ.ตร.เบอร์ 2 

“หากต้องการให้ผมเป็นพยานให้ ถ้ามีการฟ้องร้องกันในศาลทุจริตประพฤติมิชอบ ผมก็ยินดี ซึ่งทั้ง ก.ตร. ทั้งอนุกรรมการวินัยฯ หรือแม้แต่ ก.พ.ค.ตร. ก็อาจถูกฟ้องกลับด้วยทั้งหมด”

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุด้วยว่า หาก “บิ๊กโจ๊ก” ซึ่งเหลืออายุราชการอีก 7 ปี ได้ขึ้นเป็น ผบ.ตร. จะทำให้คนอื่นๆ หมดสิทธิได้ขึ้นอีกหลายคน เช่น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. รวมถึงระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่จะขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร. ก็ไม่ได้ขึ้นไปด้วย 

มารอลุ้นกันยาวๆ ว่า “บิ๊กโจ๊ก” ที่เหลืออายุราชการอีก 7 ปี หากศาลใช้เวลาพิจารณาจนถึงที่สุด 3 ปี ก็ยังเหลืออายุราชการอีก 4 ปี

“ศาลปกครอง” จึงเป็นที่พึ่งสุดท้ายของ “แมวเก้าชีวิต” ผู้นี้ ว่ายังจะได้ “ไปต่อ” ในชีวิตราชการตำรวจ ซึ่งมีเก้าอี้ ผบ.ตร. เป็นเดิมพัน หรือไม่

หรือในที่สุดแล้ว จำต้อง “จบชีวิตราชการตำรวจ” แล้วหันไปเล่นการเมืองแทน...