วันนี้ เวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (นัดพิเศษ) ณ ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
ได้มีมติเห็นชอบตามที่ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เสนอแต่งตั้ง นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ในตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
"นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช หรือที่รู้จักกันในชื่อ "หมอมิ้ง" จากเด็กหนุ่มผู้มีอุดมการณ์ทางการเมืองแรงกล้า สู่แพทย์ชนบท และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญทางการเมืองระดับชาติ เรื่องราวของเขาเป็นภาพสะท้อนความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2497 พรหมินทร์เติบโตมาในยุคที่การเมืองไทยเริ่มเปลี่ยนแปลง ในวัยเรียน เขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้วยการเป็นประธานนักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และสอบติดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ช่วงเวลาในมหาวิทยาลัยเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 พรหมินทร์กลายเป็นแกนนำนักศึกษาคนสำคัญ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคแนวร่วมมหิดล และเลขาธิการแกนม่วง-เหลือง ถึงกับนำแนวคิดของเหมา เจ๋อ ตุง มาประยุกต์ใช้ในการสร้างพรรคนักศึกษา
แต่โชคชะตาพลิกผันหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 พรหมินทร์ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยใช้ชื่อ "สหายจรัส" ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายและอันตรายที่สุดในชีวิตของเขา
หลังจบการศึกษาแพทยศาสตร์ พรหมินทร์เลือกทำงานในชนบท เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลในจังหวัดขอนแก่น ก่อนจะเข้าสู่วงการธุรกิจโทรคมนาคมและสื่อสาร ซึ่งนำไปสู่การรู้จักกับ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร
จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่มาถึงเมื่อเขาเข้าสู่การเมืองระดับชาติ ดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย ทั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แต่ก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคเมื่อถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี หลังการยุบพรรคไทยรักไทยในปี 2549
อย่างไรก็ตาม พรหมินทร์ไม่เคยทิ้งอุดมการณ์ทางการเมือง กลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งในพรรคเพื่อไทย และล่าสุดได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ในปี 2566
แม้ว่าเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกฯไป ครม.รักษาการณ์ก็แต่งตั้งให้เลขานายกฯ ก่อนที่มติครม.แรกของในยุคนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ตั้งให้เป็นเลขาธิการนายกฯต่ออีกครั้ง
ประสบการณ์ทางการแพทย์ (2528-2534):
การทำงานในภาครัฐ (2534-2536):
ประสบการณ์ในภาคธุรกิจ (2536-2544):
บทบาททางการเมือง (2544-ปัจจุบัน):