“สุวัจน์”ปิดอบรมหลักสูตรวิทยาลัยธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน วธอ.รุ่น 9

05 ต.ค. 2567 | 08:23 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2567 | 08:38 น.

“สุวัจน์”ปิดอบรมหลักสูตรวิทยาลัยธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน วธอ.รุ่น 9 นักศึกษานำเสนอแนวทางและกลไกการพัฒนาประเทศ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ปัจจุบัน

วันที่ 5 ตุลาคม 2567 ที่โรงแรมอโนมาแกรนด์ กรุงเทพฯ นายสุวัจน์ ลิปดพัลลภ ประธานที่ปรึกษา มูลนิธิการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน (วธอ.) ได้เป็นประธานปัจฉิมนิเทศ และกิจกรรมจบหลักสูตร ของนักศึกษาวิทยาลัยธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน วธอ.รุ่น 9 โดยมี นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานมูลนิธิฯ และ นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ผู้อำนวยการหลักสูตรร่วมในงาน

            “สุวัจน์”ปิดอบรมหลักสูตรวิทยาลัยธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน วธอ.รุ่น 9

นักศึกษา วธอ.รุ่นที่ 9 มีจำนวน 125 คน ประกอบด้วย นักธุรกิจ ข้าราชการ นักวิชาการ ซึ่งใช้เวลาในการอบรมทั้งสิ้น 16 สัปดาห์ ซึ่งเน้นการเรียนการสอนจากวิทยากร ผู้มากประสบการณ์ จากภาคธุรกิจ และภาครัฐ 

โดยเน้นหัวข้อที่สามารถนำไปต่อยอด แล้วเพิ่มพูนประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดการธุรกิจ โดยเฉพาะ SME เพื่อให้สามารถอยู่รอดปลอดภัยกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกในปัจจุบัน ทั้งด้านเศรษฐกิจการเมือง และสังคม อาทิเช่น การเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เทคโนโลยีดิสรัปชั่น

                           “สุวัจน์”ปิดอบรมหลักสูตรวิทยาลัยธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน วธอ.รุ่น 9

อุตสาหกรรมยานยนต์ พลังงาน AI ไลฟ์สไตล์และเศรษฐกิจยุคใหม่หลังโควิด
คณะนักศึกษา วธอ.รุ่นที่ 9 ได้นำเสนอแนวทางในการพัฒนาประเทศ ในหัวข้อต่าง ๆ เช่น AI Disruption, Smart city การปฏิวัติอุตสาหกรรมไทย การพัฒนาอย่างยั่งยืน พลังงานไฮโดรเจน นวัตกรรมอีวี การบริหารวัสดุเหลือใช้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้มีการนำสรุปเป็นเอกสารเพื่อเผยแพร่ ไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปพิจารณาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป

                            “สุวัจน์”ปิดอบรมหลักสูตรวิทยาลัยธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน วธอ.รุ่น 9   “สุวัจน์”ปิดอบรมหลักสูตรวิทยาลัยธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน วธอ.รุ่น 9

ทั้งนี้ คณะนักศึกษา วธอ. 9 ยังได้มอบเงินให้กับมูลนิธิฯ เป็นจำนวนเงิน 2.5 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนในการบริหาร และนำไปฝึกอบรม ให้กับคณะนักศึกษา วธอ.รุ่นต่อๆ ไป เนื่องจากในการจัดการศึกษานั้น ทางมูลนิธิฯ มิได้เก็บเงินค่าใช้จ่ายจากนักศึกษาทุกรุ่นแต่ประการใด เป็นภารกิจของมูลนิธิฯ เพื่อพัฒนานักธุรกิจของประเทศให้เติบโตด้วยคุณภาพและความทันสมัย เพื่อประโยชน์ในการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่าง ภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อให้เกิดพลังในการพัฒนาประเทศ