วันนี้ (16 พ.ย. 2567) นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่เกินเป้าหมายรวม 94.08% แต่มีปัญหาความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้หน่วยรับงบประมาณเหลือเวลาทำงานน้อย และต้องเร่งเบิกจ่ายในช่วงท้ายปี โดยเฉพาะงบลงทุน
นายสรรเพชญ ระบุว่า ผลการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2567 รายจ่ายประจำสามารถเบิกจ่ายได้เกินเป้าหมายที่ 101.14% ซึ่งเป็นการจ่ายประจำนี้ เป็นรายจ่ายที่รัฐบาลจะต้องจ่ายตามปกติ เพราะส่วนใหญ่เป็นงบรายจ่ายด้านบุคลากร
ส่วนงบลงทุนซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำได้เพียง 65.15% ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยงบส่วนที่เหลือถูกตั้งไว้เป็นงบเบิกเหลื่อมปี ซึ่งคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ในไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2568
นายสรรเพชญ กล่าวว่า ที่น่าจะต้องติดตามและให้ความสำคัญ คือ งบประมาณรายจ่ายของปี 2568 ซึ่งกำลังบังคับใช้ หลายโครงการได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว แต่รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งกระบวนการประมูล จัดซื้อจัดจ้าง และอนุมัติโครงการ เพื่อให้ทันกรอบเวลาที่กำหนด
“การเร่งรัดนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มการจ้างงาน และเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน”
ทั้งนี้ นายสรรเพชญ แสดงความกังวลว่า หากรัฐบาลยังไม่ปรับปรุงกระบวนการ เช่น ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ความล่าช้าเดิมอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน ซึ่งอาจกระทบต่อเป้าหมายการพัฒนาประเทศในระยะยาว
นายสรรเพชญ กล่าวว่า การบริหารจัดการงบลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงช่วยให้การเบิกจ่ายงบประมาณบรรลุเป้าหมาย แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในระดับฐานราก ซึ่งช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ ส่งเสริมการจ้างงานในท้องถิ่น และกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง