วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ชี้แจงข่าวเกี่ยวกับการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ว่า
คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด และศาลปกครองสูงสุด ยังไม่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งใดๆ หากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาหรือคำสั่งใดๆ สำนักงานศาลปกครองจะได้แจ้งให้สื่อมวลชนได้รับทราบต่อไป
นอกจากนี้ กรณีบางสื่อนำเสนอชื่อและรูปภาพของตุลาการศาลปกครองสูงสุด จำนวน 5 คน โดยระบุว่า เป็นองค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่พิจารณาพิพากษาคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น ก็เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้นำคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตรอง ผบ.ตร.ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.), นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 ต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด
และมีรายงานข่าวออกมาว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีมติยกคำร้องคดีดังกล่าว โดยชี้ว่า คำสั่งให้ออกราชการนั้นชอบแล้ว
การประชุมครั้งนั้น เป็นการประชุมใหญ่ของตุลาการศาลปกครองสูงสุด และเป็นการประชุมภายใน มีตุลาการศาลปกครองสูงสุด เข้าร่วม 40-50 คน
มีรายงานว่า ในการพิจารณาประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าว องค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดเจ้าของสำนวน ได้สรุปสำนวนคดีและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องรายงานต่อที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด โดยที่ประชุมได้เปิดให้ตุลาการศาลปกครองสูงสุดแต่ละคนอภิปรายแสดงความคิดเห็น ก่อนที่จะมีการลงมติชี้ขาด และให้องค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดเจ้าของสำนวนเขียนคำพิพากษาต่อไป