“เศรษฐา"รอด ป.ป.ช.ตีตกปมตั้ง "บิ๊กต่อ" นั่งผบ.ตร.ไม่ชอบ 

16 ธ.ค. 2567 | 13:14 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2567 | 13:18 น.

“เศรษฐา ทวีสิน" รอด ป.ป.ช.ตีตกปมตั้ง "บิ๊กต่อ" นั่งผบ.ตร.ไม่ชอบ ชี้หลักฐานไม่พอฟังได้ว่ามีเจตนาทุจริตเอื้อประโยชน์

วันนี้ (16 ธ.ค. 67) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (เลขาฯ ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณากรณีกล่าวหา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กับพวก ในฐานะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่า ดำเนินการคัดเลือกรายชื่อเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะ ประสบการณ์ในงานสืบสวน หรืองานป้องกันปราบปราม

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณารายงานการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่า การดำเนินการคัดเลือก รายชื่อเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้มีการพิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส แต่กฎหมายกำหนดไว้แต่เพียงว่าให้คำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปราม 

เมื่อผู้ถูกร้องที่ 1 กับพวก ได้พิจารณา ข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ใช้ประกอบในขณะพิจารณาคัดเลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งเป็นบุคคลมีคุณสมบัติ ครบถ้วน และอยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นตามนัยมาตรา 77 (1) ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. และได้รับฟังความคิดเห็นจาก ก.ตร. ทุกคน 

และไม่มีพฤติการณ์หรือข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานใดบ่งชี้ได้ว่ามีการสั่งการ ให้มีการคัดเลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. การใช้ดุลพินิจของผู้ถูกร้องที่ 1 กับพวก จึงไม่พอที่จะรับฟังได้ว่า มีเจตนาทุจริตเพื่อประโยชน์ของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล 

จึงมีมติไม่รับเรื่องกล่าวหาไว้พิจารณาตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 49 ประกอบ ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ. 2561 ข้อ 45 (1)