พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ ประธานคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทําหน้าที่ตรวจสอบประวัติบุคคลความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดํารงตําแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ด้วยคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทําหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดํารงตําแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับมอบหมาย จากวุฒิสภาให้ทําหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคล ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดํารงตําแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 129
ในการนี้ เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปด้วยความละเอียดและรอบคอบ คณะกรรมาธิการสามัญ จึงมีความประสงค์ขอความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปในการแจ้งข้อมูล ข้อเท็จจริง หรือข้อคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดํารงตําแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
หากท่านใดมีข้อมูล ข้อเท็จจริง หรือ ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรม ทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อดังกล่าว ขอได้โปรดกรุณาดําเนินการจัดส่งข้อมูลไปยัง ประธานคณะกรรมาธิการสามัญ ที่ ตู้ ปณ. 9 ปณฝ. รัฐสภา กรุงเทพฯ 10305
หรือที่สํานักกํากับ และตรวจสอบ สํานักงานเลขาธิการวุฒิสภา เลขที่ 1111 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 หรือที่ http://www.senate.go.th ภายในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ด้วย
สำหรับบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดํารงตําแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 ราย ประกอบด้วย
1. รองศาสตราจารย์สิริพรรณ นกสวน สวัสดี ศาสตราจารย์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. นายชาตรี อรรจนานันท์ อดีตอธิบดีกรมการกงสุล และอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ได้รับการเสนอชื่อฯ ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบประวัติฯ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดํารงตําแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ของคณะกรรมาธิการสามัญ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนั้น ห้ามมิให้หน่วยงานหรือบุคคลใดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ได้รับการเสนอชื่อฯ นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง จากกรณี นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และ นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 16 และวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 จึงต้องดำเนินการสรรหาตุลาการใหม่ภายใน 120 วัน ก่
นายนครินทร์ เป็นตุลาการในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์
ส่วน นายปัญญา เป็นผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับการสรรหาจากผู้รับหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ตํ่ากว่าอธิบดี หรือ หัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า หรือตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอัยการสูงสุดมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
ทั้งนี้ ในการสรรหาผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กฎหมายบัญญัติให้คณะกรรมการสรรหาปรึกษาหารือ เพื่อคัดสรรให้ได้บุคคลซึ่งมีความรับผิดชอบสูง มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ และมีพฤติกรรมทางจริยธรรมเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม รวมตลอดทั้งมีทัศนคติที่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลสำเร็จ