พรรคประชาธิปปัตย์หนึ่งในพรรคการเมืองเก่าแก่ของประเทศไทย ประกาศสู้ศึกเลือกตั้งโดยมี 8 นโยบายที่วางไว้เป็นเรือธงในการดูดคะแนนเสียง
ทั้งนี้ หนึ่งในนโยบายสำคัญ คือ ประกันรายได้ส่วนต่าง เช่น ข้าว ยางพารา และข้าวโพด เป็นต้น
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุชัดเจนว่า นโยบายแรกจะเป็นนโยบายต่อเนื่องจากความสำเร็จของพรรคประชาธิปัตย์ ในส่วนของการประกันรายได้ ซึ่งก็คือ การประกันรายได้จ่ายเงินส่วนต่าง ข้าว มัน ยาง ปาล์ม และ ข้าวโพด โดยรายละเอียดของการต่อยอดโครงการประกันรายได้นั้น จะเน้นในส่วนของเงินส่วนต่างให้กับพี่น้องเกษตรกร
นโยบายที่ 2 เป็นนโยบายสำหรับพี่น้องเกษตรกรที่ปลูกข้าว ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4.7 ล้านถึง 4.8 ล้านครัวเรือน โดยชาวนารับ 30,000 บาท ต่อ 1 ครัวเรือน
“นโยบายดังกล่าวเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวนาให้มีความสามารถในการพัฒนาตัวเอง"
สำหรับรายละเอียดเงินประกันส่วนต่างรายได้ที่พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินไปก่อนหน้านี้ หรือการประกันรายได้ คือ
อย่างไรก็ดี เงินส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวด 14 โครงการประกันรายได้ข้าว สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 4 จะเข้าบัญชี 18 ม.ค.นี้ ได้แก่
โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 18 ม.ค. 2566 มีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 3,516 ครัวเรือน และจนถึงวันที่ 11 ม.ค. 2566 ธ.ก.ส. ได้จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกร งวดที่ 1 - 13 จำนวนถึง 2.575 ล้านครัวเรือน