จังหวัดอุดรธานีถือว่าเป็นพื้นที่การเคลื่อนไหวของการเมืองที่สำคัญพื้นที่หนึ่ง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดงภาคอีสาน ด้วยสาเหตุที่ว่าเคยเป็นพื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในภาคอีสานตั้งแต่สมัย นายทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย สามารถนำพาลูกพรรคครองที่นั่ง ส.ส.ในพื้นที่อุดรฯได้ครบทุกที่นั่งด้วยกระแสการเมืองขณะนั้นแบบพลิกฟ้า ผ่าดิน
จนมีการกล่าวกันว่า "เอาเสารั้วหรือเสาไฟลงสมัครก็ได้รับเลือก" ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยสามารถครองพื้นที่มาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้
นอกจากนั้น จังหวัดอุดรธานี มีกลุ่มเสื้อแดงที่สำคัญอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มชมรมคนเสื้อแดง”ชมรมคนรักอุดร” มีนายขวัญชัย สาราคำ หรือ ขวัญชัย ไพรพนา โฆษกปากกล้าเป็นแกนนำ และกลุ่มหมู่บ้านเสื้อแดง มีนายอานนท์ แสนน่าน เป็นแกนนำ ซึ่งในปัจจุบัน นายอานนท์ฯได้ยุติบทบาทแกนนำเสื้อแดง ไปร่วมกับนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน หันไปร่วมมือจัดตั้งหมู่บ้านประชาธิปไตยแทน
โดยมีอดีตแกนนำเสื้อแดงจังหวัดต่างๆในภาคอีสานและภาคเหนือเข้าร่วมจำนวนมากเข้าร่วม ขณะที่นายอานนท์ฯปัจจุบัน ได้รับการแต่งตั้งเป็นราชการการเมืองตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ มีพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่เข้ามาทำการเคลื่อนไหวในพื้นที่อุดรธานีอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญกำลังเป็นพื้นที่แย่งชิงพื้นที่กันเองของกลุ่มเสื้อแดงคือ พรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ "อุ๊งอิ๊ง" หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นหัวหน้าพรรคที่เป็นเจ้าของพื้นที่มานาน
ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ผู้ที่เคยมีบทบาทที่สำคัญของพรรคเพื่อไทยในภาคอีสานมาเป็นเวลานานตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ที่แยกตัวออกมาจากพรรคเพื่อไทยและมาตั้งพรรคไทยสร้างไทย โดยให้ความสำคัญว่าเป็นพรรคของคนอีสาน เพราะคุณหญิงหน่อยฯ เป็นลูกหลานย่าโม คนโคราชกันเองเป็นสโลแกนหลัก
อีกพรรคหนึ่งพรรคสร้างอนาคตไทย ที่มีสี่กุมารรวมถึง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่สนิทชิดเชื้อกับ กลุ่มอุดรเจริญศรีมากด้วย ซึ่งหากว่ามีการประกาศวันเลือกตั้ง และเขตการเลือกตั้งแล้ว ก็จะมีพรรคการเมืองอื่นๆอีกหลายพรรคเข้ามาทำการเคลื่อนไหวตามมา
ความเคลื่อนไหวล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2566ที่ผ่านมา ก็เป็นพรรคเพื่อไทยโดยการนำของ "อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร" ยกทัพขนผู้บริหารและแกนนำของพรรคลงพื้นที่อุดรธานี เปิดตัวแนะนำว่าที่ผู้สมัครทั้งเก่าและใหม่อย่างยิ่งใหญ่ และเพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างกำลังใจ ให้กับลูกพรรคเพราะเพื่อไทยที่เป็น ส.ส.เขตอุดรธานีแบบเหมาพื้นที่มานาน
ไฮไลน์ครั้งนี้คือ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 9 เชต ประกอบด้วยส.ส.เก่า ใหม่คือ เขต 1 นายศราวุธ เพชรพนมพร , เขต 2 อนันต์ ศรีพันธ์ ,เขต 3 นายขจิตร ชัยนิคม ,เขต 4 นายกรีร์ สาราคำ ลูกชาย นางอาภรณ์ สาราคำ ลงสมัครแทนแม่ที่ขอใช้เวลาไปดูแลครอบครัว, นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนา, เขต 5
นางจุฑาพัตธน์ เมนสวัสกิ์ , เขต 6 นายธีระชัย แสนแก้ว อดีต รมช.เกษตรฯ และประธานเครือข่ายเกษตรกรแห่งประเทศไทย จะลงแทน นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ที่ออกไปอยู่กับพรรคไทยสร้างไทย , เขต 7 นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ,เขต 8นางเที่ยบจุฑา ขาวขำ , เขต 9 นายวัชรพล ขาวขำ ลูกชาย นายวิเชียร ขาวขำ
ขณะที่ก่อนหน้านี้พรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่แยกตัวออกมาจากพรรคเพื่อไทย มีกระแสดราม่า ความขัดแย้งกันในพรรคเพื่อไทย ก็ลงพื้นที่อุดรธานีก่อนใคร และล่าสุดก็มีการวางตัวว่าที่ผู้สมัครแล้วหลายเขตแล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งตามที่มีข่าวว่าจะรวมกับพรรคสร้างอนาคตไทย
โดยมีรายชื่อเบื้องต้นดังนี้ เขต 1 ว่าง , เขต 2.นายรั่ง ธุระพล ,เขต 3.นายโชคเสมอ คำมงคุณ ,เขต 4. ว่าง ,เขต 5. นายอดศักดิ์ แก้วมงคุณทรัพย์ ,เขต 6. นายโอภาส พรหมโคตร ,เขต7. นายฐานวัฒน์ ธนาธัยยพิชญ็ ,เขต 8. นายกิติวัฒน์ ปราบพาล ,เขต 9.นายภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น
สำหรับเขต 1.และ เขต 4.ที่เว้นว่างเอาไว้นั้น ข่าวแจ้งว่าเก็บเอาไว้ กรณีมีการรวมพรรคสร้างอนาคตไทย คือ นายกิตติกร หรือ เสี่ยปู ฑีฆธนานนท์ จากค่ายอุดรเจริญศรี ที่สนิทชิดเชื้อกับ ดร.สมคิดฯ และ นายชัยฤทธิ์ หรือ สจ.แม๊ก เขาวงศ์ทอง
ผู้สันทัดกรณีการเมืองในพื้นที่อุดรธานี มีข้อคิดที่น่าสนใจว่า ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเร็วๆนี้สมรภูมิเลือกตั้งอุดรธานี จะเป็นพื้นที่การแข่งขันที่ดุเดือดพอสมควรจนอาจจะถึงรุนแรง เพราะสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงไป
เจ้าของพื้นที่เดิมคือพรรคเพื่อไทยในพื้นที่หลายเขตอาจจะไม่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา เหตุเพราะมีหลายพรรคให้ความสนใจพื้นที่อุดรธานี และกระแสการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม
ยิ่งขณะนี้คนอุดรธานีมีความเข้าใจเรื่องของการเมืองมากขึ้น การย้ายออกจากพรรคที่สังกัดไปอยู่กับพรรคอื่นมีจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน