การติดตั้งป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส. ถูกวิพากวิจารณ์แทบจะทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้ง ล่าสุด นายสุพจน์ หล้าจำศิล ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน (สปท.) สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวกรณีมีการตั้งข้อสังเกตป้ายหาเสียงกีดขวางทางสัญจรทั้งที่ยังไม่มีประกาศเลือกตั้งว่า กทม.โดย สปท.ได้ประสานแจ้งสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตถึงแนวทางการหาเสียงเลือกตั้ง
รวมทั้งการปิดประกาศและติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) โดยให้กระทำได้ตั้งแต่ 180 วัน ก่อนวันครบอายุถึงวันก่อนวันเลือกตั้ง ตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 และในกรณีที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ให้ถือปฏิบัติตามแนวทางการปิดประกาศและติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562
หลักเกณฑ์-วิธีการติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.
1.ขนาดของแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
2.วิธีการติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
กรณีมีการติดแผ่นป้ายไม่ถูกต้องหรือเกินขอบเขตที่กำหนด ให้หัวหน้าหน่วยงานมีอำนาจสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลา หากไม่แก้ไข คณะกรรมการฯมีอำนาจรื้อถอน หรือปลดออก หรือสั่งให้หน่วยงานอื่นดำเนินการโดยคิดค่าใช้จ่ายกับผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองนั้น และคณะกรรมการฯ อาจนำมาเป็นเหตุในการสืบสวน หรือไต่สวนตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาดได้
ด้านนายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กล่าวว่า สนท.ได้ประสานสำนักงานเขต กรณีป้ายที่เข้าข่ายลักษณะเป็นป้ายหาเสียงเลือกตั้งไม่ได้ติดตั้งไว้ ณ สถานที่ที่อนุญาตให้ปิดประกาศหาเสียงเลือกตั้งได้ ให้แจ้งเจ้าของป้ายแก้ไขให้ถูกต้อง หากเจ้าของป้ายไม่ปฏิบัติตามให้เก็บป้ายหาเสียงได้ทันที
หลักเกณฑ์การติดตั้งป้ายหาเสียง
ป้ายผิดกฎหมายอื่น ๆ สนท.ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ตรวจตราและดูแลรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่โดยเฉพาะป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ก่อให้เกิดปัญหากีดขวางทางสัญจรและปัญหาด้านความปลอดภัยของผู้สัญจรไปมา
ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
จากข้อมูลตั้งแต่เดือน พ.ค. 2561- 5 ก.พ.2566 ได้จับกุมดำเนินคดีแล้ว 6,017 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 16,462,900 บาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.ได้ตรวจตรากวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง