"รัฐพงศ์ ระหงษ์" หรือ "ก้อง" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตบางซื่อ-ดุสิต นับเป็นดาวรุ่งเลือดใหม่ทางการเมืองที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในเวลานี้
ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีคุณปู่ที่ชื่อ "พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์" อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคประชากรไทย อดีต รมว.ศึกษาฯ และบิดา คือ "นาวาตรี สุธรรม ระหงษ์" อดีต ผอ.พรรคประชาธิปัตย์ เท่านั้น
เมื่อพลิกประวัติทายาททางการเมืองรุ่นที่ 3 ของ "ตระกูลระหงษ์" รายนี้ก็ไม่ธรรมดา เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบงานการเมืองมาตั้งแต่เด็ก
หลังจบปริญญาโท วิศวกรรมโครงสร้าง คณะวิศวกรรมศาสตร์ เกียรตินิยม จาก Imperial College London ประเทศอังกฤษมาได้สำเร็จ "รัฐพงศ์" เดินตามรอยเส้นทางการเมืองของปู่และบิดาพร้อมกับสานฝันให้กับตัวเอง
ในวัยเพียง 25 ปี "รัฐพงศ์"ได้รับโอกาสจากพรรคประชาธิปัตย์ให้ลงสมัคร ส.ส.เขตบางเขน ลุยศึกเลือกตั้งปี 2562 สนามเลือกตั้งครั้งสำคัญหลังจากที่ประเทศไทยห่างหายจากการเลือกตั้งมาเป็นเวลาถึง 7 ปีเต็ม
ผลปรากฏว่า เขาได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 4 ได้ 11,075 คะแนน จากจำนวนผู้สมัครแข่งขันทั้งหมด 33 คนจาก 33 พรรคการเมือง โดยนายอนุสรณ์ ปั้นทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ณ เวลานั้น เป็นผู้ที่คว้าชัยไปด้วยคะแนน 30,254 คะแนน
มาถึงวันนี้ "รัฐพงศ์" มีโอกาสสานฝันงานการเมืองอีกครั้งกับ "พรรคเพื่อไทย" ขั้วตรงข้ามกับ "พรรคประชาธิปัตย์" ด้วยเหตุผลที่ว่า "เพราะเพื่อไทย ตอบโจทย์หลักการณ์ เป้าหมาย และอุดมการณ์ทางการเมืองของเขาได้มากที่สุด"
ผมมองว่า ปัญหารากเหง้าของประเทศเราเป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำ มันคือปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งหลังจากที่ได้ศึกษา วิเคราะห์เจาะลึก และฟังข้อมูลข่าวสารแบบรอบด้านในหลากหลายช่องทาง รวมถึงจากการศึกษานโยบายของหลาย ๆ พรรค ผมเห็นว่า พรรคเพื่อไทยตอบโจทย์ของผมได้มากที่สุด
"รัฐพงศ์" มองว่า ทางด้านการเมืองทางพรรคเพื่อไทยประกาศชัดเจนว่า ไม่เอาเผด็จการ ส่วนเรื่องของนโยบายก็มีความชัดเจนที่จะแก้ปัญหาด้านสังคม ต้องการลดความเหลื่อมล้ำ ลดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย ที่เห็นชัดเจนมากที่สุดในอดีต คือ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค และกองทุนหมู่บ้าน
วันนี้นโยบายของพรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำ เป็นชุดนโยบายที่ถูกยกระดับขึ้น จาก 30 บาทรักษาทุกโรค ก็เป็น บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีได้ทุกโรงพยาบาล เป็นต้น
ในศึกเลือกตั้งปี 2566 นี้ "รัฐพงศ์" ถูกวางตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางซื่อ ด้วยเวลาที่มีอยู่เขาเดินหน้าลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนให้ได้มากที่สุด เข้าไปช่วยแก้ปัญหาอย่างสุดความสามารถเท่าที่จะทำได้
รัฐพงศ์ กล่าวยอมรับว่า การมีคำว่า "ระหงษ์" เป็นนามสกุลต่อท้ายนับเป็นสปอร์ตไลท์ที่ช่วยสนับสนุนงานการเมืองของเขาได้แต่ไม่ใช่ทั้งหมดหากขาดความมุ่งมั่นและตั้งใจ มีประชาชนเป็นเป้าหมายยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
"ผมมั่นใจว่า วันนี้กระแสของพรรคเพื่อไทยมาแรงและเป็นกระแสที่ดีเพราะนโยบายของพรรคเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ซึ่งผมก็ตั้งใจทำงานทุกวันอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ส่วนคำว่า "ระหงษ์" นั้นมีส่วนช่วยทำให้คนจำเราได้มากขึ้น"