วันนี้(2 มี.ค.66) นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วิจารณ์ตั้งคำถามต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ว่า “เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ” นั้น เพราะนายเศรษฐา ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และมีข่าวว่าอาจเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยด้วย เป็นบุคคลสาธารณะ ซึ่งในทางการเมืองต้องถูกจะวิพากษ์วิจารณ์ตั้งคำถามเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรเลย
นายชนะศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนเองประหลาดใจที่เห็นบรรดาส.ส.พรรคเพื่อไทย เช่น นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.เขตบึงกุ่ม-คันนายาว พรรคเพื่อไทย จะเป็นจะตาย หลับหูหลับตาย กระโดดออกมาด่ากราดนายกฯประยุทธ์ ที่วิจารณ์นายเศรษฐา หาว่า ตลอดระยะเวลา 8 ปี การบริหารของทำประชาชนจนลง ผูกขาดอำนาจ ทั้งหาว่าถ้าประเทศไทยมีนายกฯ อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ ใครๆ ก็สามารถเป็นนายกฯ ได้ทั้งนั้น ตนเองฟังแล้วเหมือนด่าพรรคเพื่อไทยยังไงยังงั้น
นายชนะศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา บทบาทของ ส.ส.ของ นายพลภูมิ ถูกเพื่อนในพรรค และสื่อเรียกว่า ส.ส.งูเห่า เพราะโหวตสวนมติพรรคมาโดยตลอด และเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยมีปากเสียงออกสื่อเท่าไหร่ แต่พอใกล้เลือกตั้งเด้งดึ๋งหาแสงทันที สงสัยคงได้ขอโทษนายหญิงนายใหญ่มาแล้ว ที่เป็นงูเห่าโหวตสวนมติพรรคใช่หรือไม่
“เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ ที่ท่านนายกฯ ประยุทธ์ ตั้งคำถามต่อนายเศรษฐา ก็ถูกต้องแล้ว เผื่อวันหนึ่ง นายเศรษฐา ได้เป็นนายกฯ ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าทำเพื่อประเทศชาติจริง ไม่เห็นประเทศชาติบ้านเมืองเป็นเพียงแค่บริษัทของครอบครัวตัวเองเหมือนใครบางคนที่ผ่านมา”
ดังนั้น อยากฝากไปยัง นายพลภูมิ และบรรดาส.ส.พรรคเพื่อไทย ถ้าแค่คำถามว่า นายเศรษฐา เก่งตรงไหน แล้วรับกันไม่ได้จะเป็นจะตายกันทั้งพรรค ตนเองไม่อยากนึกเลยว่า ถ้าได้ฟัง นายจตุพร พรหมพันธุ์ พูดถึงประวัติอีกด้านของนายเศรษฐา ซึ่งมีประวัติไม่ใช่เล่นเหมือนกัน หากเข้าสนามการเมืองจะพรั่งพรูขจรขจายออกมา เรื่องที่คนไม่เคยได้รับรู้อีกด้านของนายเศรษฐา มาก่อนก็จะได้รับรู้กันทั่วสังคมไทย แบบนี้จะไม่ฉิบหายกันทั้งพรรคหรือ" นายชนะศักดิ์ กล่าว