วันนี้(2 มี.ค.66) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ออกมาโต้กลับนายกฯ ควรแสดงวุฒิภาวะที่ดีมากกว่านี้ กรณีถาม นายเศรษฐา ทวีสิน เก่งตรงไหน ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ นายเศรษฐา เข้ามาเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว และเสนอตัวทำงานเพื่อบ้านเมือง ก็ย่อมมีใครๆ หรือแม้แต่นายกฯ อยากรู้ว่ามีความสามารถมากน้อยแค่ไหน
หรือ แม้แต่การตั้งคำถามว่าทำธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งหรือไม่ ก็เพราะว่าคนทั้งประเทศเขาก็รู้ว่า นายเศรษฐา มีความสนิทสนมกับคนในตระกูลชินวัตรอย่างไร และการเข้ามาอาจทำเพื่อคนในตระกูลชินวัตรหรือไม่
นายเสกสกล กล่าวว่า แม้นายกฯ ประยุทธ์ จะเป็นทหารมาก่อน แต่จากการทำงานที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมื่อประเทศมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ทั้งจากสถานการณ์โควิด และสงครามต่างประเทศ แต่ยังสามารถประคับประคอง ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ได้มาจนถึงทุกวันนี้
“นายกฯ แม้จะไม่ใช่นักธุรกิจใหญ่โต เช่น นายเศรษฐา แต่ที่ผ่านมาก็มีรัฐมนตรี มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างบูรณาการ และสิ่งสำคัญนายก ฯมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง โดยไม่ได้นึกถึงเรื่องส่วนตัว หรือนายใหญ่อย่างเช่นบางพรรคการเมือง”
นอกจากนี้ ตนเองยังสงสัยว่า แค่ นายกฯ ประยุทธ์ วิพากษ์วิจารณ์ นายเศรษฐา ที่เป็นบุคคลสาธารณะแค่นี้ ทำไมถึงรับไม่ได้ ออกมาปกป้องกันเป็นจำนวนมาก แตกต่างจากนายกฯ ที่ถูกคนในพรรคเพื่อไทยกล่าวหา หรือ ด่าทอรายวัน แต่กลับอดทนและสามารถรับฟังมาได้ตลอด
“หาก นายเศรษฐา ทนฟังไม่ได้ก็ถอนตัวออกไป เพราะไม่แน่จากนี้ไป นายเศรษฐา ก็อาจจะต้องทนฟังประชาชนวิจารณ์อย่างนี้ไปอีกนาน เผลอๆ ทนเสียงวิจารณ์ไม่ได้ ก็คงถอดใจไปเอง" นายเสกสกล ระบุ