น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ เน้นย้ำในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 33 คน 33 เขต ว่า วันนี้การที่ตนมายืนอยู่ตรงนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้ทุกคนได้มีความมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีเพียงเลือดที่ไหลออกไป แต่ยังมีเลือดคนรุ่นใหม่อย่างตน
และผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไหนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งในทุกประวัติศาสตร์ ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมต้องมีการสูญเสียเป็นเรื่องปกติ ประชาธิปัตย์เองก็เป็นเช่นนั้น เพราะเราคือต้นไม้ใหญ่ เมื่อจะผลิดอกออกผลก็ต้องผลัดใบเป็นเรื่องปกติ เพื่อให้สมัยหน้าเราจะผลิดอกออกผลให้สวยงามยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องยืนยันที่แสดงให้เห็นว่าอุดมการณ์และความเป็นสถาบันที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนอยู่เหนือตัวบุคคล และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้พรรคดำรงอยู่คู่คนไทยมายาวนานถึง 77 ปี”
น.ส.วทันยา กล่าวว่า ในประวัติศาสตร์เราเห็นการเกิดขึ้นของพรรคการเมืองหลายพรรค เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เพื่อต้องการชนะการเลือกตั้ง โดยเอาอำนาจ เอาตำแหน่งเป็นที่ตั้ง และพรรคเหล่านั้นก็อยู่ได้เพียง 1-2 สมัยแล้วก็ล้มหายตายจากไป ซึ่งการที่เรามานั่งอยู่พร้อมกันวันนี้ เพราะที่นี่เรามีประชาชนเป็นที่ตั้ง
ที่พูดแบบนี้จะบอกว่าเราไม่ได้อยู่เหนือใคร แต่เราทำงานการเมือง เราตระหนักเสมอตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งพรรคจนถึงวันนี้ว่า อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน และตั้งแต่ทีม กทม. ทำงานมาเพื่อเตรียมสู่ศึกการเลือกตั้งครั้งหน้า
เราทำโครงการ ฟัง-คิด-ทำ เพราะถือว่าประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ เป็นแกนกลางของประชาธิปัตย์ และต่อเนื่องมาจนถึงงานในวันนี้ "ประชาธิปัตย์เท่ากับประชาชน" เพราะต้องการย้ำให้เห็นว่าประชาชนอยู่เหนือพรรคประขาธิปัตย์ โดยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเป็นผู้ที่อาสามาเป็นสะพานเชื่อมประสานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
"ขอบคุณทุกคนที่ยังคงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด รวมถึงหลายคนที่ก่อนเคยสนับสนุน แต่ว่าอาจจะมีนอกใจไปเลือกพรรคใหม่พรรคอื่นบ้าง แต่สุดท้ายก็ผิดหวัง
เดียร์จึงอยากจะบอกว่าให้ทุกคนกลับมาบ้านหลังเดิม กลับมาช่วยทำบ้านหลังนี้ให้เข้มแข็ง อบอุ่น และยิ่งใหญ่ไปกว่าเดิม เพราะสุดท้ายบ้านหลังนี้เป็นบ้านของประชาชนอย่างแท้จริง และเดียร์เชื่ออย่างยิ่งว่าเลือดของพรรคประชาธิปัตย์ยังคงไหลเสียนอยู่ในคน กทม. เสมอ" น.ส.วทันยา กล่าวทิ้งท้าย