thansettakij
EA เคลียร์งบการเงินไตรมาส 4/67 พร้อมเดินหน้าเต็มที่ในปี 68

EA เคลียร์งบการเงินไตรมาส 4/67 พร้อมเดินหน้าเต็มที่ในปี 68

27 มี.ค. 2568 | 06:35 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มี.ค. 2568 | 06:41 น.

EA เคลียร์งบการเงินไตรมาส 4/67 ตามแผนกลยุทธ์ในธุรกิจประกอบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และธุรกิจแบตเตอรี่ พร้อมแจงบันทึกผลขาดทุนกว่า 4,600 ลบ. เป็นการปรับปรุงทางบัญชี ไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดหรือการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท

EA เคลียร์งบการเงินไตรมาส 4/67 ชี้หากไม่รวมรายการพิเศษ จะมีกำไรกว่า 2,200 ลบ. พร้อมโชว์ผลประเมินความยั่งยืน ESG โดย MSCI เพิ่มจาก A สู่ AA ตอกย้ำผู้นำด้านความยั่งยืน

นายฉัตรพล ศรีประทุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) หรือ EA หนึ่งในผู้นำธุรกิจพลังงานทดแทนของประเทศ ชี้แจงว่า บริษัทได้ทำการปรับปรุงรายการทางบัญชีโดยปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือของยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และแบตเตอรี่ โดยส่งผลกระทบทางบัญชีในงบไตรมาส 4 ของปี 67 ทั้งนี้เพื่อเป็นการเริ่มต้นงบการเงินปี 68 ที่สะท้อนภาพธุรกิจที่แท้จริง ที่มีการปรับแผนกลยุทธ์ในธุรกิจประกอบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และธุรกิจแบตเตอรี่

"จากผลประกอบการในปี 2567 เรามีกระแสเงินสดมากกว่า 8,000 ล้านบาท และหากไม่รวมการปรับปรุงรายการทางบัญชีครั้งนี้ บริษัทมีกำไรมากกว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงิน นอกจากนี้ เรากำลังดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ธุรกิจที่ได้ประกาศไว้เมื่อต้นปี ในการปรับโมเดลธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และธุรกิจแบตเตอรี่ โดยการสร้างความร่วมมือกับผู้นำระดับโลกในแต่ละสายธุรกิจ"

“เราได้ร่วมมือกับหนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์ประเภทพิเศษรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน คือ บริษัท เฉิงหลี่ สเปเชียล ออโตโมบิล จำกัด (Chengli Special Automobile Co., Ltd.) ในการพัฒนาสินค้าและผลิตจากโรงงานของเรา

บริษัท เฉิงหลี่ เป็นผู้ผลิตและส่งออกรถประเภทพิเศษมากกว่า30,000 คันไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก "และสำหรับธุรกิจแบตเตอรี่ ขณะนี้เรากำลังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบทางกฎหมายของข้อตกลงกิจการร่วมค้าของเรากับหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของจีน เพื่อใช้โรงงานของเราในประเทศไทยสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เพื่อรองรับการผลิตสำหรับส่งออกไปในสหรัฐอเมริกาและยุโรป และตอนนี้เรากำลังตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภาษีระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา" นายฉัตรพลกล่าว

EA ได้รับการจัดอันดับด้านความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จากสถาบัน MSCI ESG Research หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือในด้านดัชนีความยั่งยืนระดับนานาชาติ โดยได้รับการปรับระดับจาก A สู่ระดับ AA และบริษัทได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น “ผู้นำในกลุ่มธุรกิจประเภทเดียวกันในด้านความพยายามด้านเทคโนโลยีสะอาด”

คุณฉัตรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า "เราภูมิใจที่ได้รับการยกระดับจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความพยายามของเราที่จะดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของธุรกิจ"

บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานปี 67 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมรายการพิเศษ) เป็นบวก และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง สะท้อนถึงความมั่นคงของธุรกิจหลัก

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการบันทึกผลขาดทุนสุทธิที่กว่า 4,600 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก การปรับปรุงทางบัญชีที่ไม่ใช่เงินสด (one-time non-cash accounting write-off) จำนวนมากกว่า 9,000 ล้านบาท โดยรายการพิเศษดังกล่าวส่วนใหญ่เป็น การสำรองค่าเผื่อการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดหรือการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท

นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน อธิบายว่า “แม้จะมีการปรับปรุงทางบัญชีดังกล่าว บริษัทฯ ยังคงมี EBITDA (ไม่รวมรายการพิเศษ) ที่เกือบ 8,000 ล้านบาท และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกที่กว่า 8,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง”

นอกจากนี้ กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ (ไม่รวมรายการพิเศษ) อยู่ที่มากกว่า 2,200 ล้านบาท แม้ว่าจะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจหลักของบริษัทยังคงดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง

“โครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ ได้รับการปรับปรุงให้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงมากขึ้น และการ write-off ดังกล่าว Book Value ต่อหุ้น (BVPS) คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8 บาท ซึ่งช่วยให้งบดุลสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ได้ดียิ่งขึ้น” นายวสุกล่าวเพิ่มเติม

บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าดำเนินกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต