WEH พร้อมขายหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท 25-27 ต.ค.นี้ ชูดอกเบี้ย 6.75%

20 ต.ค. 2565 | 04:34 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ต.ค. 2565 | 11:43 น.

WEH ผู้นำด้านอุตสาหกรรมพลังงานลมใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีกำลังการผลิตติดตั้ง และบริหารจัดการโรงไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 717 เมกะวัตต์ (MW) จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม 8 โครงการ เดินหน้าลงทุนโครงการพลังงานลม 11 โครงการ กำลังการผลิตรวม 870 เมกะวัตต์ มูลค่า50,000 ล้านบาท

WEH ผู้นำด้านอุตสาหกรรมพลังงานลมใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีกำลังการผลิตติดตั้ง และบริหารจัดการโรงไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 717 เมกะวัตต์ (MW) จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม 8 โครงการ เดินหน้าลงทุนโครงการพลังงานลม 11 โครงการ กำลังการผลิตรวม 870 เมกะวัตต์ มูลค่า50,000 ล้านบาท คาดว่ายื่นประมูลได้ปลายปี 2565 พร้อมระดมทุน 2,000 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นกู้ อายุ 2 ปี ชูดอกเบี้ยสูง 6.75% เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 25-27 ต.ค.2565

WEH มีโครงสร้างองค์กร เพื่อรองรับการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกือบ 100%อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นแผนที่อยู่ในการดำเนินธุรกิจของ WEH  อยู่แล้ว แต่บริษัทมองว่า ช่วงนี้ยังไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม เนื่องจากโครงการของบริษัทที่ในปัจจุบันนั้น ขึ้นมาหลายปีแล้ว ซึ่งหากบริษัทได้โครงการใหม่ๆ และสามารถผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์(COD) ได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า อาจจะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการพิจารณาแผนอีกรอบหนึ่ง

ดังนั้น เพื่อลงทุนศึกษาความพร้อมการขยายแผนธุรกิจพลังงานและลงทุนในธุรกิจอื่นๆและเป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัทจึงจะระดมทุนด้วยการด้วยการออกหุ้นกู้ระยะยาวชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.75%ต่อปี เสนอขายไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2565 นี้

 

WEH พร้อมขายหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท 25-27 ต.ค.นี้ ชูดอกเบี้ย 6.75%

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในการยื่นเสนอขายไฟฟ้าจากโครงการพลังงานลม 9 โครงการ กำลังการผลิต 810 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 50,000 ล้านบาท  ซึ่งจะเปิดให้ยื่นเสนอภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังเริ่มขยายธุรกิจนอกเหนือจากพลังงานลมไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ด้านสุขภาพและความงาม โดยบริษัทเข้าไปลงทุนในบริษัท ณุศาศิริ จำกัด มหาชน ผ่านบริษัทธนา พาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท) ซึ่งแนวโน้มผลประกอบการ NUSA มีทิศทางเป็นบวกและคาดว่า จะดีขึ้นในปีหน้าจะดีขึ้น

ขณะเดียวกันยังศึกษาธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง อาทิ ประเทศเวียดนาม กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรปตะวันออก สามารถกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างยั่งยืนในอนาคต

 

WEH พร้อมขายหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท 25-27 ต.ค.นี้ ชูดอกเบี้ย 6.75%

“WEH ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2552 มีทุนจดทะเบียน 1,088 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหนี้เริ่มต้นกว่า 40,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันมียอดหนี้คงค้างโครงการเหลือประมาณ 25,000 ล้าน ในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทชำระหนี้โครงการแล้วเหลือ 4,000 ล้านบาท มาจ่ายให้กับผู้ถือหุ้น”

สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งแรกปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 5,100 ล้านบาทโดยรายได้จากการขายไฟฟ้า ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากปริมาณลมลดลงจากปีที่แล้ว ส่วนรายได้อื่นสูงกว่าปีที่แล้ว มาจากกำไรจากเงินลงทุนในระยะสั้นที่ยังไม่รับรู้ 470 ล้านบาท ส่วนในด้านค่าใช้จ่ายต่างๆนั้นลดลง 110 ล้านบาท หรือ 13%  และสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ถึง 4,900 ล้านบาท

ส่วนทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2565 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 4 ถือเป็นไฮซีซั่นของทุกปี ขณะเดียวกันยังได้รับอานิสงส์จากราคาค่าไฟของปี 2565 ที่ปรับสูงขึ้นจากค่า Ft ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับสูงขึ้นประมาณ  6% จากปีก่อน โดยคาดว่าทั้งปี 2565 จะมีรายได้ประมาณ 12,000 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งเติบโต 5-7% จากปีก่อนและตั้งเป้ารายได้ 15,000 ล้านบาทในอีก  2-3 ปี   

“อานิสงส์จากค่า Ft ส่งผลให้ค่าไฟเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเกือบ 10% จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโต โดยรายได้   WEH เติบโตต่อเนื่องจากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 9,972 ล้านบาทเพิ่มเป็น 10,985 ล้านบาทในปี 2564 ความสามารถการทำกำไรอยู่ในระดับ 40-50% ทุกปีและสามารถจ่ายปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในปี 2564 ทุกไตรมาสรวม 30.50 บาทต่อหุ้น”