นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศ ให้มีรายได้เสริมในช่วงฤดูแล้ง ด้วยการจ้างแรงงานชลประทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 สำหรับปฏิบัติงานด้านต่างๆ อาทิ งานซ่อมแซม บำรุงรักษา ขุดลอก ปรับปรุงงานชลประทาน โครงการส่งเสริมการดำเนินงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานก่อสร้างแหล่งน้ำและระบบส่งน้ำเพื่อชุมชน แก้มลิง การจัดการคุณภาพน้ำ รวมทั้งโครงการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ทดแทนการว่างเว้นจากการทำการเกษตร โดยในปีนี้มีแผนจ้างแรงงานวงเงิน 5,336 ล้านบาท สามารถจ้างแรงงานได้ประมาณ 86,000 คน ระยะเวลาการจ้างอยู่ระหว่าง 3 - 10 เดือน วงเงินจ้างแรงงานอยู่ระหว่าง 26,100 - 87,000 บาท/คน(ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจ้าง/คน)
โดยเกณฑ์การจ้างแรงงานจะพิจารณากลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ดังนี้ 1. เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรหรือเกษตรกรในพื้นที่ 2. สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำของกรมชลประทานในพื้นที่ 3. ประชาชน และผู้ใช้แรงงานทั่วไป และ 4. หากแรงงานในพื้นที่มีไม่เพียงพอให้พิจารณาจ้างเกษตรกรหรือแรงงานในพื้นที่ใกล้เคียง จากหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด และลุ่มน้ำ ตามลำดับ
ปัจจุบันมีการจ้างแรงงานทั่วประเทศไปแล้วประมาณ 16,408 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 19 ของแผนฯ โดยจังหวัดที่มีผลการจ้างแรงงานมากที่สุด 3 ลำดับ ได้แก่ จังหวัดนครพนม 1,861 คน จังหวัดอำนาจเจริญ 1,191 คน และจังหวัดเชียงใหม่ 1,110 คน
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อเป็นการสร้างรายได้เสริมหรือทดแทนจากการสูญเสียรายได้ด้านการเกษตร หากเกษตรกรหรือประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถติดต่อสอบถามหรือสมัครได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือทางสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ชลประทานบริการประชาชน